บุรีรัมย์-อุทัยธานี ‘ลํ้าเส้น’รัฐบาลกลาง? ปิดเมืองสกัดโควิด
สถานการณ์ที่โลกทำได้แค่ตั้งรับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลามอย่างรวดเร็วใน 154 ประเทศ ทำให้มีผู้ป่วย 167,543 รายทั่วโลก
ขณะที่ประเทศไทย ล่าสุดวันที่ 17 มีนาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อสะสม 177 ราย กลับบ้านได้แล้ว 41 ราย รักษาในโรงพยาบาล 135 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
แม้ประเทศไทย ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดประเทศ เหมือนหลายประเทศในยุโรป เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อลามมากขึ้นในวันเดียวกัน (17 มี.ค.) คณะรัฐมนตรีมีมติให้สถานบริการในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑลหยุดบริการเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคมนี้
ประกาศดังกล่าว รวมถึงโรงหนัง-สถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้านนวดไทย นวดโบราณ ที่เป็นร้านที่เข้ากฎหมายว่าด้วยสถานบริการให้ปิดทั้งหมด ไม่รวมมาตรการที่ทยอยออกมาก่อนหน้านี้ อาทิ เลื่อนวันหยุดสงกรานต์วันที่ 13-15 เมษายน 2563 ไปก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวของคนจำนวนมาก จนกว่าสถานการณ์ไวรัสระบาดจะผ่อนคลายลง ซึ่งยังไม่ทราบว่าเมื่อใด
ขณะเดียวกันมีคำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้รวมพลังฝ่าวิกฤติสู้ไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการเข้มข้นที่รัฐบาลประกาศออกมาเป็นระยะๆ
เนวินลั่นใครไม่ทำGUทำ
ท่ามกลางความตื่นตระหนกและสับสนต่อสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่อาจมีการประกาศเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 ตามที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศให้สถานบริการในเขตกทม.และปริมณฑลหยุดบริการเป็นเวลา 14 วัน
โดยที่ไม่มีใครคาด อยู่ๆ เสือปืนไวอย่าง “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็สร้างความฮือฮา ด้วยการโพสต์เพจ “ลุงเนวิน” ออกแถลงการณ์หนุนปิดเมืองสู้โควิด ก่อนที่จะระบาดไปทั่วเมือง ว่า
“ปิดเมือง เพื่อความปลอดภัย หยุดกิจกรรม เพื่อป้องกันการระบาด คนป่วย แยกรักษา เจ็บแต่จบ บ้าน GU ต้องปลอดภัย ใครไม่ทำ GU ทำ บุรีรัมย์สู้!!!!!”
พร้อมกันนั้นเพจ “ลุงเนวิน” อ้างอิงคำแถลงการณ์ของ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ไวรัส อาทิ คัดกรองไข้ผู้เข้ามาบุรีรัมย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นต่างชาติ หรือต่างจังหวัด ทั้งการคัดกรองสนามบิน สถานีรถไฟ โรงแรมที่พัก รวมถึงมีระบบติดตามเฝ้าระวังผู้เข้ามาเป็นเวลา 14 วัน
ทั้งสั่งปิดกิจกรรมทุกอย่าง หยุดสัมมนา กิจกรรมบันเทิง การกวดวิชา ตลาดนัด หากเลิกไม่ได้ต้องแจ้งนายอำเภอ รวมถึงการรณรงค์ รักพ่อห่วงแม่ ไม่เดินทางกลับช่วงสงกรานต์ และออกมาตรการเตรียมพร้อมเพื่อหยุดโควิด-19 และรองรับสถานการณ์รุนแรงที่อาจจะมีขึ้น
ในตอนท้ายแถลงการณ์ของ “พ่อเมืองบุรีรัมย์” ระบุชัดเจนว่า ได้สนับสนุนจากโรงแรม BRIC BOX ซึ่งสามารถจัดให้เป็นห้องแยกระบบปิด จำนวน 80 เตียง ได้รับการสนับสนุนจากท่านประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้สามารถรองรับผู้ป่วยยืนยันวินิจฉัยได้มากถึง 115 คน
หนุนชัตดาวน์อุทัยธานี
ช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับการประกาศปิดเมืองบุรีรัมย์ ปรากฏว่าในเย็นวันเดียวกัน “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซ บุ๊กส่วนตัว เปิดแถลงการณ์นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ประกาศตั้งด่านคัดกรองผู้ที่จะเข้าตัวเมืองและออกจากจังหวัดอุทัยธานี โดยมีด่านสกัดตรวจวัดทุกทางที่จะเข้าจังหวัดอุทัยธานี งดจัดงานเลี้ยง และงดงานกาชาดประจำปี 2563 แม้ว่ายังไม่พบว่าประชาชนในจังหวัดอุทัยธานี ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม
“ชาดา” ระบุในตอนหนึ่งว่า
“กระผม ชาดา ไทยเศรษฐ์ และเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ จะคอยเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังให้พี่น้องชาวอุทัยธานี
จะทำทุกวิถีทางที่จะให้ชาวอุทัยธานีปลอดภัยจากเหตุการณ์ “โควิด-19” อย่างสุดกำลังความสามารถ ชีวิตที่เหลือเพื่อชาวอุทัยฯ โดยไม่ลืมแนบชื่อ ส.จ.ปานัดฌา ชาดา เจเศรษฐ์ และ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ผู้รับใช้ชาวอุทัยธานี
และไม่ลืมอ้อนชาวอุทัยผ่านโซเชียล ว่า “ชีวิตที่เหลือเพื่อชาวอุทัยฯ”
ชี้เป็นไปตามสถานการณ์
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยอมรับว่า กรณีจังหวัดบุรีรัมย์และอุทัยธานีประกาศปิดเมือง เป็นไปตามสถานการณ์ของแต่ละเมือง เพื่อลดผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ที่จะออกมาตรการเพื่อลดการระบาดของโรค เป็นไปตามกฎหมายโดยไม่ต้องผ่านส่วนกลาง
“เนื้อหาของประกาศปิดเมืองเพื่อคัดกรองคนเป็นไปตามมาตรการ social distance คือไม่ให้คนรวมกลุ่มกัน ตามมาตรการที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้แนวทางไว้” มท.1 กล่าวทิ้งท้าย
การประกาศปิดเมืองสู้การ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดใน 2 จังหวัด ที่มีแกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ทั้งมีอดีตส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าว ถูกจับตาและมีการโยนคำถามไปยังรัฐบาลทันควันว่า
“รัฐบาล” ทำอะไรอยู่
คำสั่งปิด 2 จังหวัด “ลํ้าเส้น” คำสั่งจากส่วนกลางหรือไม่
หรือมีข้อมูล “ลับเฉพาะ” เกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 หรือไม่ เพราะรู้กันดีว่า เมืองบุรีรัมย์ และอุทัยธานี เป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของกลุ่ม “เนวิน-ชาดา” ในขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นอกจากสวมหัวโขน “รมว.สาธารณสุข” อีกบทบาทเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
“ยอมเจ็บเพื่อจบ ไม่ให้โรคโควิด-19 มาระบาดในจังหวัดบุรีรัมย์” และ “ชีวิตที่เหลือเพื่อชาวอุทัยฯ”
ฟังแล้ว “รัฐบาล” คิดอย่างไร?
ประชาชนจังหวัดอื่นๆ คิดเห็นอย่างไร?
นี่คือคำถาม...
หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,558 วันที่ 19-21 มีนาคม 2563