ฝรั่งเศสสั่งปิดชายแดนฝั่งประเทศสหภาพยุโรป

17 มี.ค. 2563 | 00:36 น.

“มาครง” สั่งปิดชายแดนฝั่งประเทศสหภาพยุโรป หลังพบมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6,633 ราย

 

เมื่อวานนี้ (16 มีนาคม 2563) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy - Paris, France - สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ระบุว่า นายแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้แถลงทางโทรทัศน์ ในวันนี้(17 มีนาคม 2563) เวลา 12.00 น. จะปิดชายแดนด้านประเทศสหภาพยุโรปและพื้นที่ Schengen และระงับการเดินทางระหว่างประเทศอียูและ ประเทศนอกอียู เป็นเวลา 30 วัน โดยยังอนุญาตให้ชาวฝรั่งเศสที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับประเทศโดยสามารถติดต่อสถานทูต/สถานกงสุลฝรั่งเศสในต่างประเทศได้

เนื่องจากวันจันทร์ที่ 16 มี.ค.2563 (สถานะเวลา 15.00 น.) ฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส covid-19 สะสม จำนวน 6,633 (เพิ่มขึ้น 1,210 ราย) และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 148 ราย (เพิ่มขึ้น 21 ราย )

ตั้งแต่วันนี้ เวลา 12.00 น. และเป็นเวลา 15 วันเป็นอย่างน้อย จะอนุญาตให้เดินทางออกจากที่พักได้เฉพาะที่จำเป็น ได้แก่ การไปจ่ายตลาด ไปรับการรักษาพยาบาล ไปทำงานในกรณีที่ไม่สามารถทำงานจากบ้านได้ และไปเดินออกกำลังกาย โดยไม่อนุญาตให้ออกจากที่พักไม่ว่าจะเพื่อไปพบปะครอบครัวหรือเพื่อนฝูง และให้บริษัททุกแห่งต้องพยายามจัดการให้สามารถทำงานจากบ้านได้ หากไม่สามารถทำได้ จะต้องมีมาตรการป้องกันมิให้ลูกจ้างเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หากไม่ทำตาม จะมีมาตรการลงโทษ

เลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบที่สองออกจากกำหนดเดิมในวันที่ 22 มี.ค.2563 ไปก่อน หลังจากที่ได้หารือกับ ปธ. สภาผู้แทนราษฎร ปธ. วุฒิสภา และหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหมด รวมทั้งได้รับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

 

ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก และระมัดระวังต่อ fake news

 

การทำงานทั้งหมดของรัฐบาลและรัฐสภาในขณะนี้ จะเป็นการทำงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการวิกฤตนี้เท่านั้น จึงระงับการปฏิรูปทุกอย่าง เริ่มจากการปฏิรูประบบการเกษียณ และรัฐบาลจะเสนอร่างกฎหมายต่อ ครม. ในวันพุธนี้เพื่อให้อำนาจรัฐบาลออกกฤษฎีกาที่จำเป็นต่อการบริหารจัดการวิกฤตทางสาธารณสุขในครั้งนี้ ซึ่ง ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันพฤหัสบดีนี้

 

ในวันนี้ จะมีการแจกจ่ายหน้ากากอามัยต่อบุคคลากรทางการแพทย์ผ่านร้านขายยาใน 25 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และวันพุธจะมีการแจกจ่ายให้กับพื้นที่อื่น ๆ และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป รัฐบาลจะรับผิดชอบค่าแท็กซี่และค่าโรงแรมที่พักให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการ นอกจากนี้ จะมีการผ่อนเบาภาระของ รพ. ใน จ. Grand Est ที่มีผู้ป่วยจำนวนมากที่สุดในปัจจุบัน โดยจัดให้บริการ รพ. ทหารชั่วคราวแคว้น Alsace (hôpital de campagne du service de santé des armées)

 

จะยังคงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม , จะไม่ให้บริษัทใดต้องล้มละลาย และไม่ให้ชาวฝรั่งเศสคนใดไม่มีรายได้ และให้เลื่อนการชำระเงินสมทบประกันสังคมและภาษี และรัฐบาลรับประกันการเลื่อนการจ่ายชำระหนี้ต่อธนาคารภายในวงเงิน 3 แสนล้านยูโร และสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่ประสบปัญหานั้น จะระงับค่าใช้จ่ายทุกอย่างไปก่อน อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าแก๊ส ภาษี และค่าเช่า และจะมีการตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งนี้ รัฐบาลจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเหล่านี้ภายในวันนี้

 

ตามที่เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ได้มีประกาศ ก. สาธารณสุขในราชกิจจานุเบกษาฝรั่งเศส (Journal Officiel) เกี่ยวกับมาตรการป้องกัน/ชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส นั้น วันนี้ ได้มีประกาศฉบับแก้ไขเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเคร่งครัด กล่าวคือ การหมั่นล้างมือ การไอ/จามใส่ข้อศอก การไม่จับมือทักทายและการเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร โดยการชุมนุม การประชุม การจัดกิจกรรม หรือการต้อนรับใด ๆ ที่ไม่ถูกห้ามโดยประกาศนี้ ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ห้ามสถานประกอบการ/สถานบริการดังต่อไปนี้ ให้บริการแก่สาธารณชน จนถึงวันที่ 15 เม.ย. 2563 สถานที่จัดการประขุม สัมมนาและการแสดง หรือสถานที่จัดงานแบบอเนกประสงค์ ร้านขายสินค้าและศูนย์การค้า ยกเว้นการขายแบบ delivery หรือการมารับของที่ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายเครื่องดื่ม (อาทิ ร้านขายไวน์ บาร์ ผับ) ยกเว้นการขายแบบ take away และ delivery บริการ room service ของร้านอาหารและบาร์ในโรงแรม และการให้บริการโรงอาหารที่ยังอยู่ภายใต้สัญญา

- สถานที่เต้นรำและการละเล่น

- ห้องสมุดและศูนย์จัดเก็บเอกสาร

- ห้องแสดงสินค้าและงานแฟร์

- สถานกีฬาแบบ indoor

- พิพิธภัณฑ์

 - เต้นท์แบบปิดหรือเปิด

- สถานที่กลางแจ้ง

- สถานที่รับเลี้ยงเด็ก สถานศึกษา สถาบันการอบรม Holiday center ศูนย์สันทนการที่ไม่มีบริการค้างแรม 

- สถานที่ทางศาสนาสามารถเปิดรับสาธารณชนได้ แต่ครั้งละไม่เกิน 20 คน เว้นแต่พิธีศพ

 

ส่วนสถานประกอบการ/สถานบริการดังต่อไปนี้ ยังสามารถเปิดให้บริการแก่สาธารณชนได้ ได้แก่

- อู่บำรุงรักษาและซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรกลการเกษตร

- ร้านขายอุปกรณ์รถยนต์

- ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์และจักรยาน

- ร้านขายสินค้าจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมการเกษตร

- ร้านขายอาหารแช่แข็ง

- ร้านขายสินค้าอาหารทั่วไป

- ร้านสะดวกซื้อ supermarket/hypermarket

- ร้านขายผลไม้และผัก

- ร้านขายเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์

- ร้านขายปลาและอาหารทะเล

- ร้านขายขนมปัง เค้กและขนมหวาน

- ร้านขายเครื่องดื่ม

- การแจกจ่ายอาหารให้แก่ผู้ยากไร้โดยสมาคม

- สถานีบริการน้ำมัน

- ร้านขายอุปกรณ์สื่อสาร

- ร้านขายคอมพิวเตอร์และ software

- ร้านขายอุปกรณ์สื่อสารทางไกล

- ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง 

- ร้านขาย นสพ. และเครื่องเขียน

- ร้านขายยา

- ร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์

- ร้านขายอาหารและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง

- ตลาดสด

- ตู้อัตโนมัติขายสินค้าที่ตั้งอยู่ภายนอกร้าน

- โรงแรมและสถานที่ให้บริการพักแรม

- ที่พักสำหรับการท่องเที่ยวและการให้เช่าที่พักระยะสั้น รวมทั้ง camping หากเป็นที่พักอาศัยหลักของบุคคลนั้น

- ร้านให้เช่าเครื่องมือ อุปกรณ์และสิ่งของ

- ร้านให้เช่าเครื่องจักรกลเกษตร

- ร้านให้เช่าเครื่องมือ/อุปกรณ์ก่อสร้าง

- บริษัทรับหาแรงงาน

- บริษัทรับหางานชั่วคราว

- ร้านซ่อมแซมคอมพิวเตอร์และสิ่งของส่วนบุคคล

- ร้านซ่อมแซมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร

- ร้านซักรีดเสื้อผ้า

- ร้านจัดงานศพ

- บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และบริษัทประกัน