“ม.ล.ดิศปนัดดา” นำทัพแก้วิกฤติฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ

16 มี.ค. 2563 | 10:36 น.

“กมธ.”ศึกษาและแก้ปัญหา PM.2.5 ตั้ง “ม.ล.ดิศปนัดดา”นั่งประธาน อนุฯกมธ.นำทัพขับเคลื่อนภารกิจแรกแก้วิกฤติฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ

 “ม.ล.ดิศปนัดดา” นำทัพแก้วิกฤติฝุ่น PM2.5  ภาคเหนือ

 

วันที่ 16 มี.ค.63 น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ยังคงเป็นที่กังวลของทุกภาคส่วน ซึ่งล่าสุดวันนี้กรมควบคุมมลพิษได้แจ้งปริมาณฝุ่น PM2.5 พบค่าสูงสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 351 มคก./ลบ.ม. ซึ่งได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดน ทำให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และ ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่ยังคงพบจุดความร้อนในพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลให้ฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นในวันนี้คณะกรรมาธิการฯ จึงได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อให้วางแนวทางขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบและนำสู่การปฏิบัติ โดยแต่งตั้งให้ หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล เป็นประธาน เริ่มปฏิบัติหน้าที่วันนี้เป็นวันแรก


 

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล

 

ด้านหม่อมหลวงดิศปนัดดา กล่าวว่า เป้าหมายของคณะอนุฯ นี้ คือ การคืนลมหายใจที่สะอาดให้คนไทย การจัดการกับฝุ่น PM2.5 ตลอดจนการบริหารจัดการยกระดับสิ่งแวดล้อมด้าน air quality อย่างเป็นรูปธรรม จากข้อมูลของ World Resources Insitution พบว่า สาเหตุหลัก 4 ประการที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมาจากการปล่อยคาร์บอน ภาคพลังงาน (ผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิส เป็นต้น) 51.8% ภาคเกษตรกรรม (เกษตรเชิงเดี่ยว การเผาป่า การเผาพื้นที่เกษตร เป็นต้น) 16.5% ภาคคมนาคม (เชื้อเพลิงเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ดีเซล เป็นต้น) 17.8% ภาคอุตสาหกรรม 13.9%

 

 "ในส่วนของภาคเหนือที่เป็นประเด็นกังวลอยู่ ณ ขณะนี้ สาเหตุหลักของมาจากการเผาพื้นที่ป่าต่างๆ คิดเป็น 90% แนวทางการขับเคลื่อนจะมีทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว โดยจะเป็นการบูรณาการการใช้ข้อมูลที่มีอยู่และแนวนโยบายของแต่ละกระทรวง ตลอดจนจะมีการลงพื้นที่จริงรับฟังจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การร่างกฎหมายและการสร้างแผนต้นแบบ มีเครื่องมือหรือทางเลือกแก่ประชาชนพื้นที่ที่จะทำให้เค้าอยู่ได้โดยไม่สร้างมลพิษ ชุมชนอยู่ได้ ประชาชนอยู่ได้ ประเทศอยู่ได้"หม่อมหลวงดิศปนัดดา กล่าว