“บิ๊กตู่”ชี้ยังไม่ถึงขั้นต้องกักตุนสินค้า

15 มี.ค. 2563 | 07:35 น.

นายกฯไล่ขันน๊อตทุกหน่วยสู้"โควิด-19 เร่งแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน วอนประชาชนอย่ากักตุนสินค้า

“บิ๊กตู่”ชี้ยังไม่ถึงขั้นต้องกักตุนสินค้า

 

วันที่ 15 มี.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลว่า การมาประชุมในวันนี้เพราะ มีความกังวล ว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไร จึงมานั่งไล่ตรวจสอบกันในทุกหน่วยงานตามมาตรการที่ได้ประกาศออกไปแล้วว่าทำไปได้แค่ไหนอย่างไร และปัญหาอยู่ตรงไหน 

 

รวมทั้งได้ทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่ทำลงไปรวมถึงหน้ากากอนามัย ซึ่งวันนี้ผมสั่งให้ไปรวบรวมเกี่ยวกับเรื่องของหน้ากากอนามัยว่าในส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้นมีประเทศใดบ้างกำลังตรวจสอบยอดที่เข้ามาว่ามีจำนวนเท่าไร เพื่อดูว่ายอดที่นำเข้ามากับยอดที่ผลิตในประเทศรวมแล้วมีจำนวนเท่าไหร่ มีพอเพียงหรือไม่ 


ขณะเดียวกัน ได้สั่งให้มีการไปเพิ่มมาตรการเกี่ยวกับการผลิตตามสายผลิตของโรงงานต่างๆ ให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีมาตรการที่รัฐสนับสนุนและส่งเสริมซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง อีกทั้งได้มีการหารือกับประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบโดยเฉพาะการประสานกับทางจีน เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน นอกจากนี้ เรากำลังเร่งพัฒนาหน้ากากอนามัยทางเลือก ซึ่งสามารถใช้กับบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ได้ไปใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยง เรื่องเหล่านี้ประชาชนจะต้องเกิดความเข้าใจ


นายกฯกล่าวว่า ยอมรับว่าวันนี้ประชาชนเดือดร้อนเยอะ จึงอยากขอร้องว่าวันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะต้องไปกักตุนอะไรนักหนา ตนคิดว่าอย่าไปกลัวถึงขนาดนั้นเลย วันนี้เรามีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมา ทั้งในเรื่องการติดตามตัว การใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆกำลังพิจารณาดูว่าจะบังคับใช้กับทุกคนได้หรือไม่ เพราะบางครั้งก็ติดในเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล จะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัว