เชียงใหม่อาการหนักติดอันดับ 1 ฝุ่น PM 2.5 โลก ติดต่อกัน 4 วัน

15 มี.ค. 2563 | 04:13 น.

รายงานข่าว คุณภาพอากาศของเชียงใหม่ เข้าขั้นวิกฤติหนัก ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกัน 4 วันแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (14 มีนาคม 2563) ถึง 391 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) และวันนี้อยู่ที่ 227 มคก./ลบ.ม. สาเหตุจากการเผาป่า ที่เกิดขึ้นตามดอยสูง ในขณะที่ ในวันนี้ หลายจังหวัดได้มีฝนตกหนักพายุฤดูร้อน แต่เชียงใหม่ไม่ได้รับอานิสงส์นี้เลย

ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนควรอยู่ในบ้าน ไม่ควรออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน เนื่องจากผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมมีข้อแนะนำด้านสุขภาพ คือ คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ สำหรับ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง หมายถึง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด

เชียงใหม่อาการหนักติดอันดับ 1 ฝุ่น PM 2.5 โลก ติดต่อกัน 4 วัน

ทางจังหวัดเชียงใหม่ปรับมาตรการคุมเข้มเชิงพื้นที่ ลงลึกถึงหมู่บ้าน ขอความร่วมมือจัดชุดลาดตระเวน ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ฯ พร้อมหาข่าว ดำเนินมาตรการด้านกฎหมาย โดยนำประชาชนชุดหาของป่าล่าสัตว์ ชรบ.จิตอาสา ทหาร ตำรวจร่วม X-ray ทุกหมู่บ้านเสี่ยง ตลอดจนจัดชุดดับไฟป่าจากกรมป่าไม้ ฝ่ายปกครอง อปท.จิตอาสาร่วมฯ พร้อมขอสนับสนุนอากาศยานดับเพลิงจาก ปภ.ทอ. กระทรวงทรัพย์ และ ทบ. สนับสนุนภารกิจ นอกจากนั้นได้กำหนดให้วันอังคารที่ 17 มี.ค. 63 เวลา 09.30 น. เป็นวันแห่งความร่วมมือทุกภาคส่วน จังหวัด อำเภอ อปท. ตำบล หมู่บ้าน ทุกครัวเรือน ฉีดล้างทำความสะอาดเมือง หน้าบ้าน ร้านค้า ทั้งจังหวัดอีกด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำสำหรับ AQHI 301-500 คือระดับอันตราย สีน้ำตาล ที่สำคัญที่สุดประชาชนทุกกลุ่มควรหลีกเลี่ยงการสูดอากาศที่มีมลพิษสูงเช่นนี้ให้มากที่สุด โดยงดกิจกรรมนอกอาคารทุกชนิดอยู่ในบ้านหรืออาคารซึ่งมีห้องที่ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศชนิดที่มีไส้กรอง HEPA ลดกิจกรรมหรือการออกกำลังกายหนัก ทำกิจกรรมที่เบาๆ เท่านั้น

เชียงใหม่อาการหนักติดอันดับ 1 ฝุ่น PM 2.5 โลก ติดต่อกัน 4 วัน
 

หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านจริงๆ ควรใส่หน้ากากชนิด N95 หรือ FFP2 ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ปอด ผู้สูงอายุ เด็ก หญิงมีครรภ์ และอาจรวมถึงคนอ้วนและผู้ป่วยเบาหวานด้วย สังเกตอาการที่อาจเกิดจากผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อสุขภาพ เช่น แน่นหน้าอก หายใจขัด หอบเหนื่อย เหงื่อออก คลื่นไส้ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หน้ามืด แขนขาชาหรืออ่อนแรง สับสน ซึมลง พูดไม่ชัด ตาพร่ามัว เดินเซ เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์โรงพยาบาล ติดตามสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้เฝ้าระวังและปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม