>> เรื่องเมาธ์ทุกซอกทุกมุมนี่ หรือเรื่องเผือกนี่ บอกมาเจ๊เมาธ์จัดค่ะ ...สัปดาห์นี้มีเรื่องเข้าหูเจ๊ ฟังแล้วเจ๊ไม่แฮปปี้ เป็นเรื่องโบรกเกอร์ แอปเปิ้ล ที่อุตส่าห์เปลี่ยนชื่อ เป็น Kingford
>> เปลี่ยนตั้งแต่ชื่อโบรกเกอร์ ยันซีอีโอ ถ้าจำไม่ได้ เจ๊จะทวนให้ฟังกันลืม ไม่ว่าจะชื่อ “ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” หรือชื่อใหม่ “ปทาน” เรียกขานฟังได้ว่า “ประธาน” บางคนเรียกเพี้ยนเป็น “นาธาน” พฤติกรรมเจ๊แกไม่เปลี่ยนจากคงเส้นคงวา
>> พ่อพระ พ่อนักบุญ กินมัง ปล่อยนก-ปล่อยปลาเป็นตันเป็นประจำไม่เคยขาด หวังจะสร้างบุญ-ล้างบาป โถ...บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ล้างกันไม่ได้
เจ๊แกก็เลยไปเพิ่มศาสนา ใช้วิธีล้างบาป คู่ไปกับการสร้างบุญ เรื่องสร้างหน้าตา ก็ต้องยืน 1 มาด้วยเช่นกัน
>> กลับมาเข้าเรื่องฉาวตลอดเวลาของ “ท่านประธาน” ดูเหมือนท่านจะร้อนเงินตลอดเวลา หรือว่าท่านโลภ ไม่เคยพอ เจ๊เมาธ์ ก็เดาไม่ถูกเหมือนกัน เพราะคดีบิตคอยน์ (ฉ้อโกง) ไม่ทันเคลียร์ ก็ปล่อยเช็คเด้ง หลังสุดนี้ยังถูกนักลงทุนหาดใหญ่ รวมตัวกัน 12 คน ฟ้องนอมินี “ท่านประธาน” และตัวท่าน เพราะไปเรียกระดมทุนจากนักลงทุนหาดใหญ่ ที่ท่านประธานคุ้นเคย ให้มาลงทุนโรงไฟฟ้า วาดอนาคตสวยหรู 3 ปี เข้าตลาดหุ้น ผลตอบแทนงาม ...แฮ่ ๆๆ สุดท้าย 3 ปี ครบกำหนด ไม่มีใครได้เงินคืน ได้แค่หุ้นที่ไม่มีมูลค่าไปนอนกอด ขอเงินคืนที่หักขาดทุน ก็ไม่ได้ สุดท้ายท่านประธาน ถูกฟ้องคดีฉ้อโกง เป็นคดีฟ้องอยู่ “สน.ทุ่งมหาเมฆ” มูลหนี้ฟ้องก็ราว ๆ 70 ล้านบาท เทียบกันไม่ได้กับทรัพย์สิน ที่ท่านประธานมีนะคะ
>> ไม่รู้ “ท่านประธาน” ร้อนเงินแค่ไหน กิจการโฮลดิ้งที่ครอบอยู่บนธุรกิจหลักทรัพย์ ต้องคอยส่งเงินขึ้นไปที่โฮลดิ้ง นับ 100 ล้านบาท 1-2 ปีก่อน ท่านประธานใช้ลงทุนกัญชา 50-60 ล้านบาท ลงหุ้นนอกตลาด และอื่น ๆ อีกไม่มีใครตรวจสอบ เพราะท่านชงเอง ทำเอง ลิ่วล้อรอบตัว ใครจะกล้าขวางท่าน
>> จุดตัดที่แตกหักของท่านประธาน ที่คุมโฮลดิ้ง กับ ผบห.หญิงมือเก๋า ซูเปอร์มาร์เก็ตติ้ง ที่คุมหลักทรัพย์ ที่ถูกดึงเข้ามาช่วยกอบกู้หลักทรัพย์ให้ คอยส่งเงินขึ้นไป หนักเข้าเริ่มไม่ไหว ใช้จ่ายมือเติบ โฮลดิ้งทำมาไม่มีรายได้ สร้างแต่รายจ่าย ขอให้หลักทรัพย์ส่งเงินชักไม่ได้การ ค้านไปที่ “ท่านประธาน” ก็สั่งปลด “ซีอีโอ” หลักทรัพย์ทันที... พร้อมเอาการ์ดมีสีที่แอบอ้างว่าเป็นทีมสหายผู้กอง มาผลักไหล่...
>> เอาล่ะสิ เรื่องนี้ เดือดร้อน “หนุ่มป้อ” หลานคุณหญิงสุดารัตน์ ที่ถือหุ้นหย่ายกว่า “ท่านประธาน” แม้จะแยกทางธุรกิจปล่อยให้ท่านประธานทำ ถูกผู้ถือหุ้นเรียกกลับมาตั้งคนกลางตรวจสอบโฮลดิ้ง ปีก่อนขาดทุนยับนับ 100 ล้านบาท ...ท่านประธานค่ะ ท่านถือหุ้นเพียงหยิบมือไม่ถึง 10% ทำไมถึงลุแก่อำนาจเยี่ยงนี้ เจ๊เมาธ์เห็นว่า กลับไปช่วยหลานเลิฟบริหารบริษัทผู้เชี่ยวชาญจัดการเงินทุน ดีกว่ามั้ยค่ะท่าน จะเบิก-จะใช้เงิน เต็มที่เลยค่ะ
>> พอหอมปากหอมคอ เรื่องท่านประธานค่ะ กลับมาเรื่องตลาดหุ้นวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม กันหน่อยค่ะ ร่วงระทึก!!! ตั้งแต่วันจันทร์ 9 มีนาคมแล้ว เกือบจะสำลักนํ้าตายแล้ว คุณป๋า “ภากร” เพิ่งจะโยนเชือกมาให้นักลงทุนจับ ออกมาตรการขายชอร์ตเซลได้เฉพาะราคาที่สูงกว่าราคาครั้งสุดท้าย เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ห้ามขายราคาตํ่ากว่าราคาครั้งสุดท้าย เริ่มทันทีวันที่ 13 มีนาคม-30 มิถุนายนนี้ ...กว่าจะออกมาตรการช่วย ก็เกือบตายหมู่
>> ช่างทำไปได้ บริษัท ไดเมทฯ (DIMET) ที่สร้างเรื่องไม่หยุดหย่อน เจ๊เมาธ์จะตามติดไม่ปล่อย เพราะเจ๊ถือว่าหากผู้บริหาร โดยเฉพาะคนคนเดียว “ปัญญา บุญญาภิวัฒน์” ที่กิน 3 ตำแหน่งอย่างซีอีโอ ประธานบอร์ด และเอ็มดี (แค่ปีนี้ ปีหน้า 64 ก.ล.ต. ไม่ให้ผูกขาดอำนาจคนเดียวแล้ว) ยังขาดธรรมาธิบาลแบบนี้ต่อไป มีอย่างที่ไหน ผู้ถือหุ้นใช้มาตรา 100 ขอเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อเลือกตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการเพิ่ม และเปลี่ยนผู้มีอำนาจเซ็นชื่อ กลับไม่ยอม ฮึ!!!
>> ประชุมบอร์ดตกลงบรรจุวาระประชุมแล้ว กลับแจ้งตลาดอีกอย่าง ...รายงานการประชุมถ้าไม่ถูกทำลายเสียก่อน เป็นหลักฐานเด็ดเลยค่ะ ...แล้วอีกเรื่องสำคัญคือ เจ๊เมาธ์ ไม่รู้ว่า DIMET ตั้ง “อุรุชา จันทร์หง่อม” เป็นที่ปรึกษาบริษัทขึ้นมา เพราะที่เจ๊เมาธ์ ผ่าน ๆ ตา เคยเห็นมีข่าว โดนฟ้องคดีอาญา ปลอมแปลงเอกสารใบลงคะแนนของบริษัท POLAR ถึง 11 ใบ...และถ้า “อุรุชา” พ้นข้อกล่าวหาหลุดคดีหรือไม่อย่างไร อัพเดตให้เจ๊เมาธ์ได้ตลอดเวลาค่ะ...รักค่ะ