พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ

13 มี.ค. 2563 | 07:30 น.

พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ หากยังพบผู้ค้าโก่งราคา  ขณะที่การกระจายหน้ากากฯยืนยันว่ามีความเข้มงวดโปร่งใส วันนี้(13มีนาคม)มีหน้ากากเพิ่มในระบบอีก2.1แสนชิ้น เป็น1.71ล้านชิ้นต่อวัน จากเดิมมี1.5ล้านชิ้น ต่อวัน พร้อมกระจายให้ สธ. 9แสนถึง1ล้านชิ้น  ส่วนการจับกุมภาพรวมจับกุมไปแล้ว135ราย

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่ากระทรวงพาณิชย์ กำลังติดตามการจำหน่ายเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ใกล้ชิด หากพบการฉวยโอกาส เตรียมจะนำมาตรการควบคุมราคาเข้ามาใช้ หากมีการจำหน่ายเกินราคาและมีการกกักตุนสินค้า

ส่วนการจัดสรรหน้ากากอนามัยวันนี้ ( 13 มีนาคม) มีหน้ากากอนามัยมาเพิ่มเติมอีกเป็น 1.7 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งกรมจะจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข9 แสนชิ้นต่อวัน แม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะขอมา 1 ล้านชิ้น โดยกรมจะเร่งรัดสรรให้ครบ1ล้านชิ้นในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าจำนวนหน้ากากอนามัยที่จัดสรร 9 แสนชิ้นต่อวันให้กับกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเพียงพอในขั้นต้น เพราะยังมีบุคลากรที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อาทิ ผู้ช่วยพยาบาล ที่ต้องการใช้ด้วย

พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ

 ส่วนที่เหลือกระจายสู่ผู้บริโภค  ยืนยันว่าทุกขั้นตอนในการจัดสรรหน้ากากอนามัย มีความรัดกุม มีเจ้าหน้าที่ประจำที่โรงงานทั้ง 11 แห่ง คุมเข้มปริมาณการจัดสรรตั้งแต่โรงงาน จนถึงปลายทางจะต้องมีตัวเลขหน้ากากอนามัยที่ตรงกัน โดยให้รายงานผ่านทางออนไลน์ เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้หน้ากากอนามัยหลุดไปช่องทางอื่น รวมถึง การขอให้โรงงานปรับเครื่องจักร และเพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (สีเขียว) ที่คนส่วนใหญ่ใช้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี มีจำนวนหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นทุก   

พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ

ส่วนที่เหลืออีก 8.1แสนชิ้น จะกระจายให้กับกลุ่มเสี่ยง เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ที่ขอเข้ามา 6 หมื่นชิ้น และการบินไทย รวมทั้งกระจายไปสู่ผู้บริโภค ทั้งร้านค้าธงฟ้า และร้านค้าปลีกต่างๆ วันนี้มีเพิ่มที่ร้านกาแฟอเมซอนมาช่วยกระจายเพิ่มเติม โดยมีเงื่อนไขเดียวกันคือ ขายราคาชิ้นละ 2 บาท 50 สตางค์ คนละ 1 แพ็ค 4 ชิ้นในราคา 10 บาท

พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ

“กรมได้กระจายไปให้ประชาชน จำนวน 810,000 ชิ้น      โดยขาย หน้ากากอนามัยบรรจุแพ็ค 4 ชิ้น แพ็คละ 10 บาท ผ่าน ร้านธงฟ้าและร้านขายยา จำนวน 200,000 ชิ้น  , เทสโก้โลตัส (180 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น  , แม็คโคร (95 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น   , BIG C (150 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น  , วิลล่ามาร์เก็ต (36 สาขา) จำนวน 60,000 ชิ้น  ,TOPS (204 สาขา) จำนวน 100,000 ชิ้น  , สมาคมร้านขายยา จำนวน 15,000 ชิ้น  , สมาคมเภสัชกรรมชุมชน จำนวน 10,000 ชิ้น  , 7-11 จำนวน 120,000 ชิ้น  ,กลุ่มเสี่ยงอื่นๆ 5,000 ชิ้น”

ขณะที่ กรณีข่าวพนักงานร้าน ซื้อเก็บไว้เองก่อนนั้น ได้มีการกำหนดเงื่อนไขกับผู้ประกอบการทุกห้าง ห้ามพนักงานซื้อสินค้าหน้ากากอนามัย / ห้ามขายเวลากลางคืน เพื่อป้องกันกรณีมีการส่งของช่วงเวลากลางคืนแล้วพนักงานซื้อเก็บไว้เอง / รวมถึงผู้ซื้อทุกคนต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อป้องกันการวนซื้อ ซึ่งหากไม่ปฎิบัติตามจะถอนร้านค้า ไม่จัดสรรให้หน้ากากอนามัยให้อีก

ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกับโรงงานหน้ากากอนามัยทั้ง 11 แห่ง ได้กำหนดเป้าหมายการผลิตหน้ากากอนามัยร่วมกันให้ถึง  2.2แสนชิ้นต่อวัน ซึ่งในแต่ละโรงงาน จะมีเป้าหมายการผลิตชัดเจนที่กำลังทยอยปรับไลน์การเพิ่ม และกำลังผลิตให้ได้ตามที่กำหนด ในส่วนของวัตถุดิบ  เริ่มมีข่าวดี เพราะจีน เริ่มเปิดโรงงาน และส่งออกวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัยแล้ว รวมทั้งในยุโรป ยังเปิดช่องให้ส่งออกวัตถุดิบอยู่ จึงมั่นใจจะมีวัตถุดิบมาผลิตหน้ากากอนามัยได้ต่อเนื่อง

พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ

“ขอให้สังคมเข้าใจ ท่ามกลางภาวะการขาดแคลนหน้ากากอนามัย และราคาที่พุ่งสูงขึ้น จนมีกระแสข่าวทางโซเชียลมากมาย เพราะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามทำงานให้เกิดความโปร่งใส และรัดกุมที่สุด ซึ่งเป็นการรักษาความน่าเชื่อถือให้กับสังคม ในการลดความเดือดร้อนของประชาชนให้ผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปได้”

พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดถึงวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาว่า  มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 135 ราย  เป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล  88 ราย และต่างจังหวัด 47 ราย และที่สำคัญสามารถจับกุมผู้ค้าในแหล่งค้าส่งสำคัญ ที่สำเพ็ง ได้ 4 ราย รวมหน้ากากอนามัย 12,700 ชิ้น ในส่วนของกลางทั้งหมดทุกคดี ตำรวจจะเป็นผู้เก็บรอจนคดีสิ้นสุด ซึ่งนอกจากการจับกุมคนขายหน้ากากอนามัยแพงแล้ว ยังได้จับกุมผู้กระทำผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควร และหากยังพบการฉวยโอกาสจากผู้ค้าเป็นวงกว้าง อาจจะพิจารณาใช้มาตรการควบคุมราคา เข้ามาใช้ทันที เพราะมีอำนาจทำได้ ตามสินค้าที่อยู่บัญชีควบคุม พร้อมย้ำกับประชาชนว่า สินค้าเจลล้างมือ รวมถึงแอลกอฮอล์ ไม่มีทางขาดแคลนแน่นอน เพราะเอทิลแอลกอฮอล์ ที่ใช้ในการผลิต มาจากมันสำปะหลัง และอ้อย ซึ่งไทย เป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลก

พาณิชย์ เล็งคุมราคาเจลล้างมือ

เช่นเดียวกับสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีข่าวการกักตุน จนหายออกไปจากชั้นวางในห้างต่างๆ นั้น ยืนยันว่า ไทย เป็นฐานการผลิตสินค้าอุขและบริโภคสำคัญของโลก โดยเฉพาะเป็นผู้ผลิตอาหาร ทั้งอาหารสำเร็จรูป และผู้ปลูกข้าวรายรายใหญ่ จึงไม่ต้องกลัวอาหารขาดแคลน รวมถึงสินค้าอุปโภค อาทิ กระดาษชำระ ก็ได้รับแจ้งจากผู้ผลิต ว่า สินค้าเป็นแพ็คใหญ่ หากหยิบไปยังชั้นวางไม่กี่ชิ้น และเติมสินค้าไม่ทัน ก็ทำให้ชั้นวางว่างได้ และวัตถุดิบการผลิตยังมีเพียงพอ ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องกักตุนสินค้า