ม.หอการค้าฯหั่นเป้าจีดีพีปี2563เหลือ1.1%

12 มี.ค. 2563 | 07:32 น.

ม.หอการค้าไทย หั่นเป้าGDP ปี63เหลือ 1.1% จาก2.8ส่งออกคาดติดลบ -1% การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา รุนแรงขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ลดลงต่ำสุดในรอบ 21 ปี

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้วิเคราะห์สถานการณ์ที่ส่งผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจ โดยมองว่าปัจจัยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 มีสถานการณ์ที่บานปลายและรุนแรงมากขึ้นไปยังภูมิภาคต่างๆ ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงภาคการท่องเที่ยว การส่งออกและการค้าโลก นอกจากนี้ยังมีในส่วนของสถานการณ์ภัยแล้ง ที่มีผลกับราคาพืชผลทางการเกษตรและกำลังซื้อของภาคประชาชน ประกอบกับเสถียรภาพทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน

ม.หอการค้าฯหั่นเป้าจีดีพีปี2563เหลือ1.1%

ทำให้ศูนย์พยากรณ์ได้มีการปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้เหลือ1.1% จากเดิมคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้2.8 %การส่งออกติดลบ 1% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าการส่งออกจะขยายตัวอยู่ที่0.8 %โดยรายได้จากภาคการท่องเที่ยวลดลง 11.3% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ภายใต้สมมติฐานที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องคลี่คลายภายในเดือนพฤษภาคม แต่หากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้และยืดเยื้อไปจนถึงเดือนสิงหาคมจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวเหลือ0.6% การส่งออกติดลบ1.5 % และรายได้จากการท่องเที่ยวติดลบ18.9%

ในขณะที่ ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ดัชนีมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 มาอยู่ที่ระดับ 64.8 โดยเป็นดัชนีที่ต่ำสุดในรอบ 21 ปี ตั้งแต่ศูนย์พยากรณ์ได้มีการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมา โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีมีการปรับตัวลดลงนั้น เป็นผลมาจากความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจและภาวะเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยถึงตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 21ไตรมาส หรือ ต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากผลกระทบสงครามการค้าและการส่งออกที่ลดลง  รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงมีผลต่อรายได้ของเกษตรกร

ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52.5 โอกาสในการหางานทำอยู่ที่ระดับ 61.4 และรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 80.4 ซึ่งเป็นดัชนีที่ปรับตัวลดลงทุกรายการ