ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 9.00 น. นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) จะเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอาจจะคลาดเคลื่อน และสร้างความเสียหายต่อกรมการค้าภายใน ซึ่งต้องการให้โฆษกกรมศุลกากรและกรมศุลกากรแสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้หลังจากนั้น เวลา 11 .00น. จะแถลงตัวเลขส่งออกหน้ากากอนามัยที่ชัดเจน ที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร กรมศุลกากรเปิดเผยว่า กรมศุลกากรอนุญาตให้มีการส่งออกหน้ากากอนามัยตามใบอนุญาตของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และเป็นการดำเนินการส่งออกของผู้ประกอบการไม่กี่ราย ไปในหลายประเทศทั้ง จีน ฮ่องกง อเมริกา โดยภาพรวมการส่งออกหน้ากากอนามัยช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้รวม 330 ตัน มูลค่า 160 ล้านบาท แบ่งเป็นเดือนมกราคม 150 ตัน และเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 180 ตัน
ต่อมาได้มีการนำประเด็นดังกล่าวไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดีย ทำให้กรมศุลกากรต้องชี้แจงด่วนในช่วงค่ำว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขจากพิกัดศุลกากร ซึ่งรวมสินค้าชนิดอื่นนอกจากหน้ากากอนามัยอีกหลายชนิด เช่น ชุดผ้าหุ้มเบาะ เชือกผูกรองเท้า ผ้ากันเปื้อน ผ้าคลุม สายคล้องคอทำด้วยผ้าทอ เป็นต้น โดยที่ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขในช่วงเดือนมกราคมถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ก่อนที่จะมีประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง การควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัย ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัย เพื่อลดการขาดแคลนในประเทศ