“ญี่ปุ่น-อียู” ชงงบแสนล้านช่วยเอกชนรับผลกระทบไวรัสโคโรนา

11 มี.ค. 2563 | 09:23 น.

 

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  “โควิด-19”  สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้กับนานาประเทศทั่วโลก ทำให้ภาครัฐต้องเร่งออกมาตรการเยียวยา-ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (10 มี.ค.) รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นวงเงินอีก  4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 124,000 ล้านบาท

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

มาตรการดังกล่าวถือเป็นความช่วยเหลือครั้งที่ 2 ของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นการขยายตัวของภาคเอกชน และลดอัตราการล้มละลาย ขณะที่เอกชนในภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก

 

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลจะจัดสรรเงินส่วนหนึ่งจากงบประมาณประจำปีนี้ที่มีอยู่ราว 2.7 แสนล้านเยนมาสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชนในครั้งนี้

 

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป

วันเดียวกัน ทางด้านสหภาพยุโรป (อียู) คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียูได้ เตรียมเสนอโครงการมูลค่า 25,000 ล้านยูโร หรือกว่า 9 แสนล้านบาท  เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคเอกชน โดยในถ้อยแถลงของนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า ภายหลังการประชุมทางวิดีโอกับผู้นำของประเทศสมาชิกอียู ก็ได้มีการนำเสนอโครงการดังกล่าวออกมา  เป้าหมายก็เพื่อสนับสนุนระบบดูแลสุขภาพ และช่วยเหลือบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ตลาดแรงงาน และภาคส่วนอื่นๆที่อาจได้รับผลกระทบจากโรคระบาดครั้งนี้  

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นตามคำเรียกร้องของนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เนื่องจากประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศได้รายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กันทั่วหน้า ขณะเดียวกัน เนื่องจากเป็นก้าวแรกในการระดมเงินลงทุน 25,000 ล้านยูโร คณะกรรมาธิการยุโรปจะเสนอให้มีการปล่อยสภาพคล่องเพื่อการลงทุน 7,500 ล้านยูโร นางฟอน เดอร์ เลเยน ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นก้าวสำคัญในการประสานงานร่วมกัน ซึ่งผู้นำประเทศและรัฐบาลจาก 27 ประเทศ ประธานคณะมนตรียุโรป และคณะกรรมาธิการได้เรียกร้องมาก่อนหน้านี้ จึงถึงเวลาแล้วสำหรับการลงมือทำเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม