โรงกลั่น กระอัก ขาดทุนหมื่นล้าน

14 มี.ค. 2563 | 00:40 น.

ราคานํ้ามันร่วง ทุบอุตสาหกรรมนํ้ามันในประเทศ โรงกลั่นแทงขาดทุนสต๊อกนํ้ามันแล้วกว่า 1 หมื่นล้าน พ่วงด้วยผู้ค้ามาตรา 7 รับไปอีก 1.2 พันล้าน ปั๊มโอดครวญแบกรับภาระเต็มๆ สั่งนํ้ามันขายวันต่อวัน ผู้บริโภคเฮได้เห็นนํ้ามันดีเซลตํ่ากว่า 20 บาทต่อลิตร

 

ตลาดนํ้ามันผิดหวังกับการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรที่ไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม ในการประชุมเมื่อวันที่ 5-6 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยซาอุดีอาระเบียผู้ผลิตนํ้ามันดิบรายใหญ่ของโอเปกออกมาประกาศทำสงครามราคาเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด ขณะที่รัสเซียโต้พร้อมจะสู้ เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดของตัวเองไว้ ประเมินว่าหากราคานํ้ามันดิบลงมาที่ระดับ 25-30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล รัสเซียจะยังสามารถรักษางบประมาณประเทศและอยู่รอดไปได้อีก 6-10 ปี

ส่งผลให้ราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดราคานํ้ามันดิบเวสต์เท็กซัส ลดลงมาอยู่ที่ 31.13 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จากระดับ 41.28 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล นํ้ามันดิบเบรนต์ลงมาที่ 34.36 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 45.27 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และนํ้ามันดิบดูไบลดลงมาที่ 32.97 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จากระดับ 48.72 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ถือเป็นราคาตํ่าสุดในรอบ 29 ปี

หากราคานํ้ามันดิบยังทรงตัวเช่นนี้ จะส่งผลให้ราคาขายปลีกนํ้ามันสำเร็จรูปในประเทศปรับตัวลดลงอีกราว 2.40 บาทต่อลิตร หลังจากที่ได้ปรับตัวลดลงไปแล้ว 1.20 บาทต่อลิตร ช่วงวันที่ 10-11 มีนาคม 2563

ทั้งนี้มีการประเมินว่าราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวลดลงนี้ จะส่งผลต่อการขาดทุนของกลุ่มโรงกลั่นนํ้ามัน 6 แห่ง และผู้ค้านํ้ามันรวมกันกว่า 1 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวจากกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นนํ้ามัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวลงค่อนข้างมากจะกระทบต่อการขาดทุนทาง บัญชีจากการสต๊อกนํ้ามันดิบตามกฎหมายที่ 6% ของปริมาณการขายหรืออยู่ที่เฉลี่ยราว 15.70 ล้านบาร์เรล หากราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกทรงตัวอยู่ในระดับนี้ หากนำเอาต้นทุนของราคานํ้ามันดิบดูไบที่ซื้อเก็บไว้ของเดือนธันวาคม 2562 มาเฉลี่ยที่ 64 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และนำมาคำนวณต้นทุนเฉลี่ยช่วง 10 วันของเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ 40.8 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จะส่งผลให้โรงกลั่นนํ้ามันรวมกันทั้ง 6 แห่ง ขาดทุนสต๊อกราว 11,291 ล้านบาท(อัตราแลกเปลี่ยน 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) หากพิจารณาราคาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2563 วันเดียว กลุ่มโรงกลั่นจะขาดทุนทางบัญชีถึง 1.5 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งนี้ การคำนวณขาดทุนสต๊อกนํ้ามันจะดูเป็นรายเดือน และนำแต่ละเดือนมาคำนวณเฉลี่ยทั้งปี ซึ่งจะทำให้ทราบการขาดทุนสต๊อกนํ้ามันที่ชัดเจน โดยปีนี้มีแนวโน้มว่าจะขาดทุนจากสต๊อกนํ้ามันดิบอย่างแน่นอน

ขณะที่ผู้ค้านํ้ามันตามมาตรา 7 ที่รับนํ้ามันจากโรงกลั่นไปกระจายตามคลังต่างๆ จะขาดทุนจากการสต๊อกนํ้ามันสำเร็จรูปที่รับนํ้ามันมาก่อนหน้านี้ราว 1 สัปดาห์ คิดเป็นการขาดทุนทางบัญชีเกือบ 1.2 พันล้านบาท นับจากการรับนํ้ามันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนผู้ค้าตามสถานีบริการนํ้ามันจะขาดทุนอยู่ที่ราว 500 ล้านบาท จากการรับสต๊อกนํ้ามันนับจากวันที่ 9 มีนาคมเป็นไปต้นจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2563

 

แหล่งข่าวจากสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการนํ้ามันพลังไทย เปิดเผยว่า ราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สถานีบริการนํ้ามันขาดทุนจากการรับนํ้ามันตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม เป็นต้นมา ซึ่งหากบริหารความเสี่ยงเวลานี้จะสั่งนํ้ามันมาจำหน่ายวันต่อวันเท่านั้น หรือราว 7,000-10,000 ลิตร เพื่อลดการสต๊อกนํ้ามัน จากปกติจะอยู่ที่ราว 1.5-2 หมื่นลิตรต่อวัน เพื่อไม่ให้แบกรับภาระสต๊อกขาดทุนที่เกิดขึ้นจำนวนมาก

ทั้งนี้จากราคานํ้ามันที่ลดลงค่อนข้างรุนแรงนี้ จะทำให้ทั้งสัปดาห์นี้มีการปรับราคานํ้ามันขายปลีกเป็นรายวันรวมแล้วจะปรับลดนํ้ามันกลุ่มดีเซลและกลุ่มเบนซินทั้งสิ้นราว 3.60 บาทต่อลิตร ดังนั้นผู้ใช้นํ้ามันดีเซลบี 10 จะได้เห็นราคาอยู่ที่ประมาณ 18.29 บาทต่อลิตร และดีเซลบี 7 อยู่ที่ 21.29 บาทต่อลิตร และได้เห็นราคาแก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 18.14 บาทต่อลิตร

 

ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ราคานํ้ามันที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงนี้ อาจจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีก เนื่องจากความต้องการใช้นํ้ามันยังลดลงต่อเนื่อง จากสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นนอกประเทศจีน ประกอบกับประกาศสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะยังยืดเยื้อต่อไป เพราะซาอุดีอาระเบียพร้อมที่จะดัมพ์ราคานํ้ามันลงมาแข่ง จากต้นทุนการผลิตอยู่ที่เพียง 5-9 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลเท่านั้น ขณะที่รัสเซียมีต้นทุนการผลิตที่ 15-20 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนสหรัฐอเมริกามีต้นทุนผลิต นํ้ามันดิบอยู่ที่ราว 30-50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพราะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สูงกว่า

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับที่ 3,556 วันที่ 12 - 14 มีนาคม พ.ศ. 2563