นายศักดินา แม้นเลิศ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารโครงการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เผยถึงภาพรวมธุรกิจอพาร์ทเมนต์ให้เช่าว่า ตลาดอพาร์ทเมนต์หรือตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อเช่า นับเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะถ้าหากโครงการนั้นอยู่ในทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การรักษาฐานลูกค้าเช่าเดิมให้คงอยู่กับโครงการไปนานๆ ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด รวมถึงสามารถรักษารายได้ให้คงตัว
ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญของกลุ่มที่ทำงานด้านตลาดเช่า สำหรับ โครงการพาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77 ซึ่งในปี2562 นับเป็นปีที่โครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) มากกว่า 80% และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็นรายได้จากการเช่ารวมที่ 42 ล้านบาท ในขณะที่ปี2561 มีรายได้รวมเพียง 24 ล้านบาทเท่านั้น สำหรับค่าเช่าเฉลี่ยมากกว่า 1.2 แสนบาท/เดือน ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเช่าส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่ทำงานในประเทศไทย
"การรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้เอาไว้ บริษัทต้องทำงานบริการอย่างหนัก เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า เข้าใจ และบริการแบบเฉพาะด้านเพื่อสนองความต้องการตามที่ลูกค้าคาดหวัง ซึ่งการบริการนี้เอง นับเป็นแรงเสริมสำคัญ ควบคู่ไปกับสินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งต้องยอมรับว่า พาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77 เป็นโครงการที่เด่น และยังตั้งอยู่บนทำเล “สุขุมวิท-อ่อนนุช” สามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายเส้นทาง ตัวโครงการพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งซัพพลายในตลาดเซ็กเมนต์ระดับลักชัวรีบนทำเลนี้มีไม่มาก โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ โดยลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มผู้บริหารระดับสูง "
นายศักดินา กล่าวต่อว่าการทำโครงการเพื่อเช่า จำเป็นต้องเน้นผู้ที่ต้องการเช่าอย่างมาก ว่ามีความต้องการอย่างไร สำหรับโครงการพาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77 เป็นโครงการที่ต้องการสร้างที่อยู่อาศัยให้ลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และต้องการความพรีเมียมในการอยู่อาศัย เมื่อตีโจทย์จุดนี้ได้แล้ว จึงมุ่งพัฒนาโครงการที่มีห้องขนาดใหญ่ โดยห้องเริ่มต้นมีขนาดประมาณ 300 ตร.ม. และมีความสงบ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ที่จอดรถมากถึง 208% อีกทั้งสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและพิเศษไปกว่านั้น โครงการตั้งอยู่ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งยังเดินทางสะดวก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
จากข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ระบุถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า แม้ภาวะตลาดอสังหาฯ เพื่อขายจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value Ratio : LTV) แต่ในขณะเดียวกันพบว่าตลาดเพื่อเช่ายังคงเติบโตและให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมให้เช่ายังคงสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า หากพิจารณาจากผลสำรวจข้อมูลพื้นที่กรุงเทพชั้นในซึ่งครอบคลุมบริเวณ เพลินจิต-ชิดลม สีลม-สาทร และสุขุมวิท ซึ่งนับว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะทำเลในช่วงสุขุมวิทตอนปลายที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จากความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกเริ่มมีการขยายออกไปมากขึ้นดีมานด์จึงกระจายตัว ทำให้สามารถปล่อยเช่าในกลุ่มลูกค้าคนทำงานและนักธุรกิจได้ดี มีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6% ต่อปี
จากปัจจัยบวกของศักยภาพทำเล สุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถเดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมไปได้ทั้งทองหล่อ, พัฒนาการ, เส้นพระราม 4, สีลม ส่วนเส้นศรีนครินทร์ก็สามารถเชื่อมไปถึงลาดกระบัง, บางนา-ตราด ที่สามารถเดินทางต่อได้ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้ง รามอินทรา-อาจณรงค์, ทางด่วนเฉลิมนคร (สุขุมวิท 62) และใกล้สถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส (BTS) สถานีอ่อนนุช จึงป็นทำเลทองที่นักลงทุนมองหา เพราะนอกจากราคาที่ดินยังถูกกว่าย่านทองหล่อ-เอกมัย แล้วที่ดินย่านนี้ ยังมีแนวโน้มการเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นายศักดินากล่าวเสริมอีกว่า นอกจากนี้ ที่ตั้งโครงการอยู่ในพื้นที่ T77 มีสาธารณูปโภคพร้อม อาทิ HUB77 ไลฟ์สไตล์คอมมิวนิตี้มอลล์, HUBBA-TO Co-working Space พื้นที่สร้างสรรค์งานแนวคิดใหม่ที่ใหญ่และครบครันที่สุดในเอเชียอาคเนย์, โรงเรียนนานาชาติบางกอก พรีแพราธอรี แอนด์ เซ็กเคินดารี (Bangkok International Preparatory and Secondary School) ส่วนรอบนอกโครงการก็มีแหล่งร้านค้าอาหารมากมาย จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้เช่าให้ความสนใจ
โครงการพาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77 ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 77 บนพื้นที่ 7.8 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นโครงการอพาร์ทเมนต์และคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี มี 5 อาคาร 70 หน่วย โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อขาย 2 อาคาร (อาคาร A และ อาคาร D) จำนวน 28 หน่วย และอพาร์ทเมนต์เพื่อเช่า อีก 3 อาคาร จำนวน 42 หน่วย (อาคาร B, อาคาร C และ อาคาร E) พร้อมที่จอดรถ 208% โดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสาธารณูปโภคครบครัน สไตล์รีสอร์ท ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่ มีห้อง Multi-Purpose Room รองรับกิจกรรมต่างๆ ของลูกบ้าน อาทิ Fitness, Swimming Pool และ Playground
ภายในโครงการสามารถเลี้ยงสุนัขได้ ห้องพักแต่ละหน่วย เน้นความเป็นส่วนตัวมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ประมาณ 300 ตร.ม. มีทั้งแบบที่เป็น Fully Fitted ซึ่งมีเฉพาะชุดเฟอร์นิเจอร์ครบแบบ Built-in ให้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และแบบที่เป็น Fully Furnished ให้ครบพร้อมเข้าอยู่รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยราคาค่าเช่าเริ่มต้นที่ หน่วยละ 120,000 บาทต่อเดือน และ ราคาขายเริ่มต้น หน่วยละ 45 ล้านบาท
“สำหรับในปี 2563 นี้ บริษัทฯ คาดการณ์จะสามารถรักษาอัตราเช่าให้อยู่ที่ 80% ของจำนวนห้องเช่าทั้งหมด” นายศักดินา กล่าวทิ้งท้าย