ปปง.ลุยสอบเส้นทางเงินพ่อค้าตุ๋นขายหน้ากากอนามัย

11 มี.ค. 2563 | 05:14 น.

ปปง.ลุยสอบเส้นทางเงินพ่อค้าตุ๋นขายหน้ากากอนามัยผ่านเพจเฟซบุ๊ก โอนเงินแล้วไม่ได้สินค้า ตรวสอบขบวนการอุ้มบุญจีน ทั้งสั่งอายัดทรัพย์คดีแชร์”มือหลุด” และเครือข่ายยาเสพติด “เล่าต๋า” เพิ่ม รวมทรัพย์กว่า 66 ล้านบาท

 

วันนี้(11 มี.ค.63)  พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) เปิดเผยว่า  คณะกรรมการธุรกรรมในคราวประชุม ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 10 มี.ค.63 ได้มีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จำนวน 4 คดี ได้แก่ 

1.คดีนายวัชรวิทย์ สุภาษิต ซึ่งพฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 

โดยนายวัชรวิทย์ ได้เปิดเพจ “Mask-หน้ากากอนามัยราคาโรงงาน ปลีก-ส่ง” โฆษณาขายหน้ากากอนามัย ราคาโรงงานคุณภาพอย่างโรงพยาบาล ในราคากล่องละ 550 บาท ซึ่ง 1 กล่องบรรจุ 50 ชิ้น ชิ้นละ 11 บาท บนอินเทอร์เน็ตทาง Facebook และได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อให้ผู้ที่สนใจสั่งซื้อหน้ากากอนามัย และโอนเงินให้ ต่อมามีผู้เสียหายเข้าไปสั่งซื้อหน้ากากอนามัยจากเพจ ดังกล่าว 

โดยหลังจากโอนเงินชำระค่าสินค้าหน้ากากอนามัยแล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อนายวัชรวิทย์ สุภาษิต ได้ เบื้องต้นพบผู้เสียหายจำนวนมาก คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายวัชรวิทย์ และผู้เกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์


2. คดี นายจ้าว หราน (สัญชาติจีน) กับพวก ซึ่งพฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่มีกฎหมายกำหนดเป็นความผิดอันเป็นมูลฐานตามมาตรา 3 วรรคหนึ่ง (10) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยพบว่านายจ้าว หราน กับพวกได้ลักลอบดำเนินการให้มีการอุ้มบุญข้ามชาติโดยผิดกฎหมาย มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจะมีนายหน้าเข้าไปติดต่อหาหญิงไทยที่ต้องการรับจ้างตั้งครรภ์แทนให้กับนายทุนผู้ว่าจ้างสัญชาติจีน เสนอให้ค่าตอบแทนรายละ 300,000 – 450,000 บาท ซึ่งนายหน้าจะพาหญิงที่รับจ้างตั้งครรภ์แทนเดินทางไปที่ประเทศกัมพูชาหรือประเทศลาว เพื่อฉีดฝังตัวอ่อน 

 

จากนั้นจะพากลับมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลในประเทศไทย เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอดอายุครรภ์ประมาณ 7 - 8 เดือน นายหน้าจะพาหญิงที่รับจ้างตั้งครรภ์แทนเดินทางไปคลอดบุตรที่ประเทศจีน และส่งมอบบุตรที่คลอดให้กับลูกค้าชาวจีน คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ของนายจ้าว หราน กับพวก รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์


3. คดีน.ส.วราภรณ์ เข็มนอก กับพวก ซึ่งพฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 

โดย น.ส.วราภรณ์  เข็มนอก กับพวกได้เปิดเพจ Facebook  จำนวนหลายเพจ ได้แก่ “waraporn khemnak’ll”, “บิวตี้เพ็ญ (Beauty Pen)”,“Phakbung First” และ“Ampikha Damnoenngam” มีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาชักชวนบุคคลทั่วไปให้ร่วมลงทุนซื้อขายแชร์มือหลุด และหลอกลวงว่าจะได้ผลตอบแทนสูง โดยมีการตั้งกลุ่มชื่อแชร์ว่า แชร์มือหลุดพี่บี และกลุ่มมือรวย p&p จงมีและรวยมาก ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อและเข้าซื้อขายแชร์มือหลุดจำนวนมาก ปรากฏความเสียหายรวมทั้งสิ้นประมาณ 105,452,450 บาท 

คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 40 รายการ พร้อมดอกผล (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 65,541,628.94 บาท  ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

 

4.คดี น.ส.วิไลลักษณ์ แสนลี่ กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยน.ส.วิไลลักษณ์ แสนลี่ กับพวก เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดของ นายเลาต๋า แสนลี่ ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ทางภาคเหนือ ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและศาลฎีกาได้พิพากษาให้จำคุกแล้ว 


โดยน.ส.วิไลลักษณ์  แสนลี่ ทำหน้าที่รับโอนเงินค่ายาเสพติดต่อจากน.ส.ซู่ยิง แซ่หวู่ ภรรยาของนายปรีชา  แสนลี่ โดยเงินดังกล่าวเป็นเงินที่รับมาจากกลุ่มผู้ซื้อยาเสพติดทางภาคใต้ ทั้งยังมีหน้าที่ในการแปรสภาพเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปเป็นทรัพย์สินอื่นเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินดังกล่าว คณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 3 รายการ พร้อมดอกผล (รถยนต์และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 500,000 บาท      ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย ผู้แอบอ้างเป็นคนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกเพจดังแฉว่ากักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ส่งขายเกินราคาควบคุม เรื่องยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการธุรกรรม ปปง.