"เกรย์มาร์เก็ต" สบช่อง EV นำเข้าแพงแต่ขายได้

13 มี.ค. 2563 | 03:40 น.

“เกรย์มาร์เก็ต” บูมกระแส EV สบช่องหลังเจ้าของแบรนด์นำเข้ามาขายน้อย “สไปเดอร์ ออโต้ อิมพอร์ท” สั่ง MINI Cooper SE จากอังกฤษ ตั้งราคา 2.59 ล้านบาท ส่วนรายย่อยอื่นๆรับจอง “Honda e” จากญี่ปุ่นโขกค่าตัว 2 ล้านบาท

จากการขยับเทคโนโลยีเข้าสู่ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สอดคล้องกับนโยบายในแต่ละประเทศ สำหรับเมืองไทย “เมอร์เซเดส-เบนซ์” มีแผนขึ้นไลน์ประกอบ EQC ที่โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ สำโรง จ.สมุทรปราการ ต้นปีหน้า ส่วนค่ายอื่นๆทั้งยุโรปและญี่ปุ่น มีแผนนำเข้า “อีวี” มาขาย ขณะที่ “เทสลา” แบรนด์ดังจากอเมริกา ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากบริษัทแม่ ถ้าลูกค้าชาวไทยอยากซื้อ ต้องสั่งกับเกรย์มาร์เก็ตเท่านั้น

EV 2 รุ่นที่กำลังอยู่ในความสนใจของตลาด อย่าง “มินิ คูเปอร์ เอสอี”  ( MINI Cooper SE ) ที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยนำเข้ามาขายล็อตแรกแค่ 25 คัน ราคา 2.29 ล้านบาท ถูกจองผ่านช่องทางออนไลน์หมดเกลี้ยงในวันเดียว อีกรุ่นคือ “ฮอนด้า อี” ( Honda e ) รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทยฯ ยังไม่มีแผนนำเข้ามาจำหน่าย ทำให้เป็นโอกาสของบรรดาผู้นำเข้าอิสระ  (เกรย์มาร์เก็ต) ในการเพิ่มยอดขายรถยนต์ทางเลือกใหม่

"เกรย์มาร์เก็ต" สบช่อง EV นำเข้าแพงแต่ขายได้

บริษัท สไปเดอร์ ออโต้ อิมพอร์ท จำกัด เกรย์มาร์เก็ตที่มีโชว์รูมและศูนย์บริการ 2 แห่งย่านบางนา และเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ผ่านมาชูจุดขายด้วยการนำรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง ปอร์เช่ ปลั๊ก-อินไฮบริด และ อีวี “เทสลา โมเดล 3” ราคา 3.59 - 4.29 ล้านบาท พร้อมแคมเปญผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี แถมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

ล่าสุดประกาศนำเข้า MINI Cooper SE จากประเทศอังกฤษ ราคา 2.59 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี 3 หมื่นกิโลเมตร (ไม่รวมค่าติดตั้งวอลล์บ็อกซ์ 7-9 หมื่นบาท) ตอนนี้มีลูกค้าจองไปแล้ว 3 คัน โดยจะได้รับรถเดือนกรกฎาคม ทั้งยังมีแผนนำเข้า “ไทคานน์” อีวีรุ่นแรกของปอร์ช่ มาแข่งกับผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ “เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส” ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้อีกด้วย (คาดราคา 7-10 ล้านบาท ใน 3 รุ่นย่อยคือ 4 เอส, เทอร์โบ และเทอร์โบ เอส)

ส่วนเกรย์มาร์เก็ตรายย่อยอย่าง “ทาร์เก็ต คาร์ เซ็นเตอร์” ถนนพระราม 3 ที่เน้นทำตลาดรถสปอร์ต ซูเปอร์คาร์ แต่คราวนี้หันมาจับตลาดรถพลังงานไฟฟ้า “ฮอนด้า อี” ( Honda e

ตามคำโฆษณาของ ทาร์เก็ต คาร์ เซ็นเตอร์ ระบุว่า จากประสบการณ์ในธุรกิจ 25 ปี บริษัทสามารถให้คำปรึกษาลูกค้าได้อย่างดี เกี่ยวกับรถยนต์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ต ซีดาน เอสยูวี หรือแม้แต่รถไฟฟ้า โดยบริษัทมีสต๊อกรถพร้อมส่ง แม้กระทั่งรถที่หายากใช้เวลาจองคิวหลายปี รวมทั้งรถที่มีจำนวนน้อยคันในโลกก็สามารถสั่งให้ได้ 

สำหรับ Honda e ถูกเปิดตัวปลายปีที่แล้ว เป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ใช้มอเตอร์ 154 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งรถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 220 กม. โดยทาร์เก็ต คาร์ เซ็นเตอร์ ตั้งราคาไว้ 1.9 - 2.0 ล้านบาท เริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้

"เกรย์มาร์เก็ต" สบช่อง EV นำเข้าแพงแต่ขายได้ "เกรย์มาร์เก็ต" สบช่อง EV นำเข้าแพงแต่ขายได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นต่างจาก 2 ผู้นำเข้าอิสระรายใหญ่อย่าง “บีอาร์จี” และ “อีตั้น อิมพอร์ท” ที่มองว่า การนำเข้าอีวีเข้ามาขายช่วงนี้ยังมีความเสี่ยง และต้องมั่นใจ 100% เมื่อขายไปแล้วต้องดูแลลูกค้าได้

นางอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทอีตั้น อิมปอร์ท จำกัด เปิดเผยว่า การทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยของอีตั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษา เพราะปัจจุบันมองว่าสถานีชาร์จไฟยังมีจำนวนจำกัด รวมไปถึงการดูแลรักษา ที่ต้องมีความเชี่ยวชาญของช่าง อุปกรณ์เครื่องมือเฉพาะด้าน ในส่วนของอีตั้น ตอนนี้มีรถยนต์ที่เป็นพลังงานทางเลือกอย่าง เซเรน่า อี- เพาเวอร์ (ไฮบริดแบบซีรีส์ ไม่มีการเสียบปลั๊กชาร์จไฟ) ที่เปิดขายและพร้อมส่งมอบ

“ในอดีตเราเคยนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ เทสลา มาเปิดตลาดในไทย และพบว่าการดูแลมีความยากระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงที่มีข้อจำกัด มีปัญหาบางอย่าง ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะไม่ไปต่อ”นางอัจฉรีย์กล่าว

นางสาวชลลธร ศรีรัตนประภาส กรรมการบริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายต่างประเทศบริษัท บีอาร์จี กรุ๊ปฯ เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาได้พูดคุยกับพันธมิตรจีน เกี่ยวกับการนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดในประเทศ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานในไทยยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องสถานีชาร์จไฟ มาตรฐานของการปล่อยกระแสไฟ และบุคลากรช่างที่มีความเข้าใจในการติดตั้ง

“การทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอาจจะไม่ใช่ 1-2 ปีนี้ แต่จะได้เห็นแน่ๆ ภายใน 5 -10 ปี โดยรถขนาดเล็กน่าจะเข้ามาทำตลาดก่อน ซึ่งเรามองว่าหากทำตลาดก็จะนำรถที่ราคาไม่สูงเกินไปเข้ามาขาย ส่วนที่เราพูดคุยกับพันธมิตรจากจีนที่จะนำรถเข้ามาจำหน่าย เราอยากจะเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการมากกว่านำเข้าเฉยๆ กล่าวคือเราอยากดูแลลูกค้าทั้งหมดทั้งระบบ ไม่ใช่แค่นำเข้ามาขายอย่างเดียว” นางสาวชลลธร กล่าว

 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,556 วันที่ 12 - 14 มีนาคม พ.ศ. 2563