สงครามราคานํ้ามัน ถอดสมการ หุ้นกลุ่ม ปตท.

10 มี.ค. 2563 | 11:00 น.

คอลัมน์เมาธ์ทั้งอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3556 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 12-14 มี.ค.63 By…เจ๊เมาธ์

 

 

          ให้มันได้แบบนี้สิคะ แบบนี้ละที่เขาเรียกกันว่า “ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก”  เรื่องของไวรัส COVID-19 ยังไม่ทันจางหาย สงครามราคานํ้ามันดิบที่ซาอุดีอาระเบีย ประกาศชนกับทุกประเทศที่เป็นคู่แข่งในตลาดนํ้ามันดิบก็กลายเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องขึ้นมาแล้วค่ะ ...ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือว่ารัสเซีย กลายเป็นคู่แข่งที่ซาอุฯ ประกาศชนเต็มตัวนะคะ แต่ในความเป็นคู่แข่งที่ว่า ทางอเมริกา ก็เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ความมั่นคงในตะวันออกกลาง ส่วนทางด้านรัสเซีย ก็เป็นพันธมิตรที่จับมือเรื่องการควบคุมปริมาณการผลิตนํ้ามันดิบในตลาดโลกมานาน

          เอาเป็นว่าเรื่องของผลประโยชน์ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ถ้ามีเงินกับผลประโยชน์ร่วมกันก็เป็นมิตรได้เสมอ แต่ถ้าเผลอไปเหยียบตาปลามันก็ต้องมีหมัดสวนกันบ้างสิคะ เอาเป็นว่า... กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็คงอ่วมทั้งแขกทั้งฝรั่งนั่นละค่า ...เจ๊เมาธ์เชื่อว่าไม่มีใครยอมเสียผลประโยชน์อยู่นาน ๆ หรอกนะคะ ทนไม่ไหว เดี๋ยวก็ต้องหันหน้าคุยกัน เชื่อเจ๊เมาธ์เถอะค่ะ สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน มีตัวอย่างทำให้เห็นแล้วไงคะ ตีกันไป-มา สุดท้ายเป็นไงละคะ เฟส 1 บรรลัย... ไม่ๆๆ บรรลุ ไปแล้วค่ะ

          คนไทย พ่อค้า-แม่ขาย หรือแม้แต่เจ๊เมาธ์ น่าจะชอบนะคะ นํ้ามันถูก ๆ เงินในกระเป๋าของพวกเราก็มีค่าขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ไม่ต้องเติมนํ้ามันแพง ต้นทุนค้าขายก็ถูกลง คนไทยได้ใช้นํ้ามันถูก ชอบมั้ย ชอบมั้ย

 

          กรณีสงครามราคานํ้ามัน หุ้นที่กระทบหนักที่สุดในประเทศสารขัณฑ์ก็ต้องกลุ่มของ ปตท. ทั้งตระกูล PTT, PTTEP, PTTGC, TOP และ IRPC  ให้เจ๊เมาธ์แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มที่เจ็บหนักที่สุดนี่ก็คงต้องเป็น PTTEP เนื่องจากว่ารายนี้เขาเป็นสายตรงระดับ “หูตั้งหางดาบ” ในเรื่องของการผลิตนํ้ามันดิบในตลาดโลก คือถ้าราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกได้ราคาดีๆ PTTEP ก็จะมีกำไร แต่ถ้าราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกไม่สวย หรือไปไม่ไหว PTTEP ก็ต้องก้มหน้ารับสภาพกันไปนั่นละค่า

          ส่วนตัวที่เจ็บบ้างแต่อาจไม่หนักเท่าไหร...ก็เป็นพี่ใหญ่ของตระกูล PTT และ PTTGC สาเหตุคือทั้ง 2 บริษัท มีธุรกิจในเครือเป็นจำนวนมาก และเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ผูกอยู่กับธุรกิจนํ้ามันและพลังงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในส่วนของ PTT รายนี้ ก็อาจจะมีกำไรลดลงบ้างจากการขาดรายได้จากบริษัทลูกอย่าง PTTEP แต่ในส่วนของ PTTGC ส่วนของรายได้ที่ลดลงไป ในส่วนของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าปิโตรเคมีคัล ที่อาจจะราคาตกต่ำลงไปบ้าง แต่ในขณะเดียวกันต้นทุนสินค้าก็จะลดลงเช่นเดียวกัน

          ที่เจ็บนิดๆ และเผลอ ๆ อาจจะได้รับผลดีซะด้วยซํ้าไป กลายเป็นหุ้นกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP IRPC และอีกบางส่วนของ PTTGC (30%) ที่เจ๊เมาธ์บอกว่า ธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามัน อาจจะไม่มีปัญหา ก็เนื่องจากว่าผลกระทบที่กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามันจะได้รับ ก็เป็นแค่เพียงเรื่องของการขาดทุนสต๊อกสินค้าเท่านั้น (Stock loss) นอกเหนือไปจากนั้น ธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามัน แทบจะไม่ต้องแบกรับภาระใดๆ ทั้งสิ้น และในขณะเดียวกันก็ยังมีโอกาสที่ค่าการกลั่น (Gross Refining Margin-GRM) อาจจะปรับตัวสูงขึ้นไป จากราคานํ้ามันดิบที่ลดลง ประมาณว่า ต้นทุนลด กำไรเพิ่มค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว เจ๊เมาธ์เห็นว่าระยะกลางถึงยาวหุ้นกลุ่มโรงกลั่นน่าจะยังไปได้ดีนะคะ

 

          ส่วนเรื่องดีลการซื้อห้าง TESCO ในประเทศไทย มูลค่า 3.38 แสนล้านบาท ของกลุ่ม CP  ที่ตีกรอบให้ CPALL ถือหุ้น 40% บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 40% และ CPF ถือหุ้นผ่านบริษัทลูก 20% เงินลงทุนมากขนาดนี้ ไม่ค่ะ ไม่ต้องห่วง “เจ้าสัวไก่ซีพี” จะเพิ่มทุนบริษัทในกลุ่ม ที่เพิ่มแน่ ๆ คือ ธุรกิจค้าปลีกค่ะ เพิ่มจากค้าส่ง ค้าขายสะดวก ก็ค้าปลีก เทสโก้ไทย-มาเลเซีย นี่แหละค่ะ ตีกัน “เสี่ยเจริญ” ค่ายบิ๊กซี ได้สำเร็จ

          แม้ว่า “เจ้าสัวซีพี” ยืนยันไม่เพิ่มทุนแล้ว แต่ทำไมราคาหุ้นร่วงลงมาทั้งกลุ่มไม่ว่าจะเป็น CPALL CPF TRUE และ MAKRO เพราะความวิตกเรื่องเพิ่มทุนยังอยู่ อีกบางส่วนก็มองว่ากลุ่ม CP ลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลงทุนที่แพงเกินไปนั่นเอง

          เอาจริงๆ เจ๊เมาธ์ กลับมองสวนทางกับ รูกู...ไม่ กูรู ผู้รู้ หรือนักวิเคราะห์ทั้งหลายที่ออกมาให้ข่าว เจ๊มองว่าไม่มีใครอยากซื้อของแพงๆ อยู่แล้วค่ะ แต่เจ๊ถามจริงๆ ว่า ถ้าจะซื้อถูกๆ แล้วใครมันจะขายให้คุณกันละคะ...แล้วลืมไปหรือเปล่าว่า ธุรกิจหลักของกลุ่ม CP เป็นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าและวัตถุดิบที่ยังต้องการช่องทางในการระบายสินค้าอีกเป็นจำนวนมาก หรือว่ายังจำกันได้หรือเปล่าตอนที่ซื้อ “แม็คโคร” ตอนนั้น คนก็บอกว่าแพงแบบนี้ รวมถึงตอนที่ลงทุนในการทำร้าน 7-11 (CPALL) ก็เกิดกรณีแบบนี้ เอาเป็นว่าใจเย็นๆ ดูๆ กันไปก่อนก็ได้ค่า...เดี๋ยวจะอายเด็กๆ เอาน้า

          มาเลยค่ะ ตามมา สงครามยังไม่จบ อย่าชิงนับศพทหารกล้า เจ๊เมาธ์ ได้ยินมาว่า เอื้อวิทยา (EWC) ต้องการเสียงสนับสนุนจากนักลงทุนรายย่อย ที่ต้องการเห็นไดเมท (DIMET) ไม่หมกเม็ด ให้การดำเนินงานเข้าที่-เข้าทาง ถูกต้องตามหลักซีจี ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล ไม่ห้าวเป้ง ฉะนั้น เปิดประชุมวิสามัญ มาตรา 100 ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ต้องตามดูกันว่า บิ๊กๆ ไดเมท จะกำหนดวันแสดงพลังของรายย่อยได้เมื่อไหร่ ...เจ๊เมาธ์ช่วยลุ้นอยู่นะคะ จริงๆ ถ้าไม่อยากให้เจ๊ลุ้นเหนื่อย “เสี่ยอู๊ดๆ” ค่ายเหล็กใหญ่ ควรเปิดอกเจรจา เคลียร์ปัญหา กับ “เสี่ยขุน” แบบแฟร์ๆ กันไป ไหนๆ ก็ร่วมทุน-ลงขันตั้งบริษัท “มูนชอร์ต” ลงทุนกิจการสตาร์ตอัพกันแล้ว อย่ามาขัดใจ-ขัดผลประโยชน์เรื่องเงินๆ ทองๆ กันเลย นะคะ

          ...บ๊าย บาย พบกันใหม่ ฉบับหน้าค่ะ