"THAMMASK"หน้ากากผ้าทางเลือกสู้โคโรนา

10 มี.ค. 2563 | 08:52 น.

ทีมวิจัยธรรมศาสตร์แนะใช้“ผ้าฝ้ายผสมโพลิเอสเตอร์” เป็นทางเลือกผลิตหน้ากากอนามัย ป้อนบุคลากรทางการแพทย์ ลดเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 พร้อมเร่งทดสอบประสิทธิภาพสาร NUVA – 1811 เพิ่มประสิทธิภาพสะท้อนน้้ำ แก้วิกฤตหน้ากากขาดแคลน   

 

"THAMMASK"หน้ากากผ้าทางเลือกสู้โคโรนา
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง อรพรรณ โพชนุกูล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 19 (COVID-19)  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ประชาชนต่างหาซื้อหน้ากากอนามัยเพื่อใช้ป้องกันตนเองจนเกิดภาวะขาดแคลนทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single - Use) ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และภาคประชาชน คณะทำงาน จึงวิจัยคุณสมบัติผ้าที่เหมาะสมในการพัฒนา “หน้ากากผ้ากันน้ำ THAMMASK เพื่อใช้ในทางการแพทย์” หน้ากากผ้าทางเลือก ที่ผลิตจากวัสดุผ้าสะท้อนน้ำ ไม่ดูดซับความชื้น และช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อ  

อาจารย์ธนิกา หุตะกมล อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีวัสดุและสิ่งทอ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. (SCI-TU) กล่าวเสริมว่า “หน้ากากผ้ากันน้ำ THAMMASK เพื่อใช้ในทางการแพทย์” นั้น เป็นการประยุกต์ใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างผ้าที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ และเหมาะสมแก่การพัฒนาเป็นหน้ากากผ้าป้องกันสารคัดหลั่งเบื้องต้น เพื่อใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยที่ขาดแคลนในขณะนี้ โดย“ผ้าฝ้ายผสมโพลิเอสเตอร์” (Cotton-Silk) มีโครงสร้างของเส้นใยที่เหมาะสม ประกอบด้วย Cotton – Microfiber จำนวนเส้นด้าย 500 เส้นต่อ 10 ตารางเซนติเมตร โดยมีเส้นด้ายยืนโพลีเอสเตอร์ ไฟเบอร์ เบอร์ 75 (Polyester Microfiber) เส้นด้ายพุ่งโครงสร้างเส้นใยฝ้าย คอมแพ็ค โคมบ์ เบอร์ 40 (Cotton Compact Combed)

นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตสามารถใช้เทคโนโลยีสะท้อนน้ำ ด้วยสาร NUVA – 1811 ซึ่งมีอนุภาคเป็นระดับไมครอน สามารถแทรกเข้าไปเนื้อผ้า เพื่อต้านไม่ให้โมเลกุลของน้ำแทรกเข้าไปในเนื้อผ้าได้ สารNUVA – 1811 ได้รับการรับรองจาก Oekotex Standard 100 – 2019 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความปลอดภัยเมื่อสัมผัสผิวหนังโดยตรง ซึ่งทางคณะทำงานฯกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน และความคงทนของเส้นใย ว่ายังคงประสิทธิภาพเดิมหรือไม่ เมื่อนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้ามาตรฐานทั่วไป ดังนั้น “ผ้าฝ้ายผสมโพลิเอสเตอร์” จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งวัสดุทางเลือกในการผลิตเป็นหน้ากากผ้าเพื่อใช้ป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งในบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไป
    

"THAMMASK"หน้ากากผ้าทางเลือกสู้โคโรนา

อย่างไรก็ดี ในภาคประชาชนยังสามารถประดิษฐ์ “หน้ากากผ้า D.I.Y. ด้วยผ้านิตเจอร์ซี่” เพื่อใช้ป้องกันสารคัดหลั่งจากการไอหรือจาม ทดแทนหน้ากากอนามัยในภาวะขาดแคลน เนื่องจากโครงสร้างผ้านิตเจอร์ซี่ (Jersey Knit) จะมีลักษณะคล้องกันเป็นห่วงตลอดทั้งผืน โดยที่ผ้าด้านหน้าจะมีลักษณะเป็นแนวตั้ง ส่วนผ้าด้านหลังมีลักษณะเป็นห่วงแนวนอน อีกทั้งยังเป็นผ้าถักที่มีความยืดหยุ่น สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี สามารถซักและใส่ซ้ำได้ 

"THAMMASK"หน้ากากผ้าทางเลือกสู้โคโรนา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัฐธนนท์ หงส์วริทธิ์ธร คณบดี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. (SCI-TU)  กล่าวเสริมว่า คณะวิทยาศาสตร์ฯ มธ. มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 สำหรับบุคลากรและนักศึกษาภายในคณะ โดยกำหนดให้มีรอบการทำความสะอาดเพิ่มมากขึ้นในบริเวณที่มีการใช้งานสูง จัดทำเจลแอลกอฮอล์ 70% ประจำจุดสำคัญต่าง  ๆ เช่น สำนักงานคณะฯ เนื่องจากมีการติดต่อราชการบ่อยครั้ง อีกทั้งมีมาตรการในการคัดกรองโดยการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารเรียน และมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลการดูแลตนเองเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ให้แก่นักศึกษาและบุคลากร  เพราะมาตรการเหล่านี้นับเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 
 

 

นอกจากนี้ สาขาวิชาเทคโนโลยีวัสดุและสิ่งทอ คณะวิทยาศาสตร์ฯ มธ. ยังได้ร่วมกับ คณะทำงานฯ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และภาคเอกชน เดินหน้าผลิตหน้ากากผ้าภายใต้กิจกรรม “ธรรมศาสตร์รวมใจต้านภัยโคโรนา” เพื่อส่งเสริมการทำหน้ากากผ้าชนิดอื่น ๆ ที่สามารถใช้ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแก่บุคลากรและนักศึกษา มธ. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย     
สำหรับผู้ที่สนใจวิธีการตัดเย็บหน้ากากผ้า เพื่อทดแทนกับหน้ากากอนามัยในช่วงที่ขาดแคลน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ScienceThammasat/posts/2200214250082114