โคโรนาส่อฉุดลงทุน FDI วูบ ลุ้น 203 โครงการจีนปักฐานไทย

13 มี.ค. 2563 | 01:05 น.

เอกชนฟันธงไวรัสโคโรนา ฉุดลงทุนเอฟดีไอไทย-โลกวูบ บิ๊กสภาอุตฯ ฟันธงภาพรวมทั้งปีเม็ดเงินลงทุนตํ่ากว่า 7.5 แสนล้าน ลุ้นสถานการณ์คลี่คลาย จีนเร่ง 203 โครงการในไทยดันแจ้งเกิด

 

ปี 2562 ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ประเทศไทยมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนไทยและต่างชาติ 1,624 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 756,100 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 750,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) 991 โครงการ เงินลงทุน 506,230 ล้านบาท โดยเป็นคำขอรับการส่งเสริมจากจีนมากที่สุด 203 โครงการ เงินลงทุน 261,706 ล้านบาท (กราฟิกประกอบ) ขณะที่สถานการณ์การลงทุนของโลกเวลานี้อยู่ในช่วงชะงักงันจากผลกระทบไวรัสโคโรนา (โควิด-19)ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลพวงจากไวรัสโคโรนา ที่ทำให้เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของโลกชะลอตัวในเวลานี้ จากแต่ละประเทศต้องป้องกันและแก้ไขปัญหาภายในของตัวเองก่อน จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่จะเข้ามาในไทยชะลอตัวลง เบื้องต้นคาดภาพรวมปีนี้ยอดขอรับการส่งเสริมและมูลค่าการลงทุนจะตํ่ากว่าปี 2562 ที่มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 756,100 ล้านบาทอย่างแน่นอน

“การลงทุนในไทยช่วงนี้คงชะลอตัว จนกว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะคลี่คลาย แต่เรายังหวังว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาในจีนจะสามารถควบคุมได้ภายในครึ่งแรกของปีนี้ และหวังโครงการจากจีนที่ขอรับการส่งเสริมไว้ในปีที่ผ่านมา 203 โครงการ ที่มีเป้าหมายจะย้ายฐานมาไทยจากผลพวงสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่สหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนจะเร่งมาลงทุนไทยอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลเพื่อรองรับอีอีซีจะได้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน”

โคโรนาส่อฉุดลงทุน FDI วูบ ลุ้น 203 โครงการจีนปักฐานไทย

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า แม้สถานการณ์ไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดไปทั่วโลกจะส่งผลให้การค้า การลงทุนของโลกชะลอตัวในช่วงนี้ แต่ท่ามกลางวิกฤตินี้ภาคเอกชนก็ต้องวางแผนการลงทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในระยะยาว หากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาคลี่คลายเมื่อใด การลงทุนของคนไทยและต่างชาติในไทยคงกลับมา เชื่อว่าคงไม่กระทบมาก ซึ่งในส่วนของการลงทุนจากจีนที่มีแผนมาลงทุนในไทยจากผลกระทบสงครามการค้า รวมถึงการลงทุนจากประเทศอื่นๆ ก็หวังจะกลับมาโดยเร็ว

แหล่งข่าวจากบีโอไอ เผยว่า ในปีนี้ยังคาดหวังการลงทุนในไทยจะยังมีแนวโน้มที่ดี ทั้งนี้ทางสำนักงานอยู่ระหว่างเตรียมรวบรวมข้อมูลการลงทุนในไทยช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ซึ่งยังต้องลุ้นว่าจะออกมาเป็นอย่างไร อย่างไรก็ดี ล่าสุดระหว่างวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2563 ทาง
บีโอไอได้จัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน ณ ประเทศญี่ปุ่น มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งได้เข้าพบนายโยชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโนบุฮิโกะ ซาซากิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศ (เจโทร) ประเทศญี่ปุ่นเพื่อแสวงหาความร่วมมือในการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงมีการหารือกับผู้ประกอบการชั้นนำของญี่ปุ่นในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีวัสดุขั้นสูงและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมด้านการเกษตรที่ญี่ปุ่นมีความก้าวหน้า เพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุนในไทย

ทั้งนี้ในปี 2562 ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนอันดับ 2 ที่ขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอ โดยยื่น ขอรับส่งเสริม 227 โครงการ มีมูลค่าการลงทุน 73,102 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8% ในด้านจำนวนโครงการ 

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,556 วันที่ 12 - 14 มีนาคม พ.ศ. 2563

โคโรนาส่อฉุดลงทุน FDI วูบ ลุ้น 203 โครงการจีนปักฐานไทย