พาณิชย์ส่งทีมตรวจเช็คตุนหน้ากาก 200 ล้านชิ้น
"ค้าภายใน"ส่งทีมตรวจเช็คข่าวกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ย้ำทุกฝ่ายตั้งสติข่าวมั่วในโซเชี่ยวเพียบ ขณะที่จุรินทร์เปิดทางผิดจริงเอาผิดทางกฎหมาย พร้อมเร่งกระจายหน้ากากอนามัยทุกจุดแต่ขอยกเลิกกระจายผ่านรถโมบาย 111 คน ชี้กระจายไปไม่ทั่วถึง
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า หลังจากได้ทราบข่าวได้สั่งเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายในลงพื้นที่ไปตรวจเช็คที่มาที่ไปของข่าวว่ามีกลุ่มคนใกล้ชิดรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพรรคพวกเตรียมจะนำหน้ากากอนามัยที่ผลิตไว้แล้วออกจากโกดังเพื่อส่งออกไปขายต่อให้นายทุนจากประเทศจีนต่อเป็นจำนวนกว่า 200 ล้านชิ้น คาดว่าจะทราบผลตรวจสอบในรายละเอียดได้ในเร็วๆนี้
“เท่าที่ได้พูดคุยกันการมีหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยที่มีกำลังผลิตสูงจะมีอยู่ 11 โรงงานและผลิตได้จริงต่อเดือนละไม่เกิน 35 ล้านชิ้นเท่านั้น หากจะผลิตได้ถึง 200 ล้านชิ้นจะต้องใช้เวลาผลิตเป็นปี ดังนั้น อยากให้ทุกฝ่ายตั้งสติและวิเคราะห์ข้อเท็จจริง”
อย่างไรก็ตามกรมการค้าภายในจะเข้าไปตรวจเช็คสต๊อกหน้ากากอนามัยในล็อดดังกล่าวว่ามีจริงมากน้อยแค่ไหนและถูกต้องหรือไม่ เพราะขณะนี้สินค้าหน้ากากอนามัยถือเป็นสินค้าที่ควบคุมทั้งราคาและปริมาณใครมีไว้ครอบครองจะต้องแจ้งให้กรมการค้าภายในได้รับทราบ และหากไม่สามารถชี้แจงใดๆได้จะเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ยืนยันว่ากรมการค้าภายในทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันออกตรวจสอบและล่อซื้อกลุ่มที่กระทำความผิดในการจำหน่ายสินค้าหน้ากากอนามัยเกินกว่าที่กฏหมายไปหลายรายแล้วจึงขอฝากเตือนผู้ที่จะกระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ถือว่าจะถูกลงโทษทางกฎหมายอย่างหนักได้
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในไปดำเนินการกับกลุ่มผู้ที่เอารัดเอาเปรียบขายหน้ากากอนามัยอย่างเด็ดขาดหากรายใดจงใจและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนขอให้ดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างจริงจัง และในวันนี้ 9 มีนาคม 2563 เรื่องหน้ากากอนามัยตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ทั้ง 3 ฉบับที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา มีผลบังคับใช้วันนี้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว
