ก.อุตฯ มุ่งใช้นวัตกรรมเน้นผลิต – ขายได้

08 มี.ค. 2563 | 09:00 น.

กระทรวงอุตสาหกรรม ผลักดันนโยบาย การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย นำนวัตกรรม และการตลาดควบคู่ไปในทิศทางเดียวกัน เน้นย้ำ ผลิตได้ ขายได้ อยู่ด้วยกันได้ บูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัด

นายกอบชัย  สังสิทธิสวัสดิ์  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นโยบาย “การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย” ตลาดและนวัตกรรมนำอุตสาหกรรมไทย ตามมาตรการ “ผลิตได้ ขายได้ อยู่ด้วยกันได้” โดยเป็นหนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีศักยภาพ ซึ่งมาจากความสำคัญของ 3 คำ ได้แก่ ผลิตได้ คือ ต้องมีการใช้งานวิจัยและพัฒนา นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์  ,ขายได้ คือ ต้องมีการตลาดที่ดีทั้งออนไลน์ (Online) และออฟไลน์ (Offline) และอยู่ด้วยกันได้ คือ สินค้าและบริการ ต้องมีคุณภาพและมาตรฐาน ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ก.อุตฯ มุ่งใช้นวัตกรรมเน้นผลิต – ขายได้

ทั้งนี้  นโยบายดังกล่าวเป็นการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันกับทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ฯ เริ่มตั้งแต่ 1. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ที่ให้ความสำคัญกับเทรนด์โลก เช่น BCG Model หรือระบบเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) การสร้างความร่วมมือของโครงข่ายโซ่อุปทาน ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการตลาดไร้พรมแดน (Global Marketing) เป็นต้น

,2.กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นหน่วยกำกับดูแลการประกอบกิจการ ให้ได้คุณภาพ และมาตรฐาน  ,3 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) และ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) เป็นหน่วยส่งเสริมด้านการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถขายได้ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

และ 4.สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หน่วยงานด้านวิจัยและพัฒนา และผู้ประกอบการภาคเอกชน เพื่อบูรณาการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มุ่งสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยได้อย่างยั่งยืน

ก.อุตฯ มุ่งใช้นวัตกรรมเน้นผลิต – ขายได้
              นอกจากนี้ เพื่อเป็นการนำอุตสาหกรรมผลักดันเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะท่ามกลางสภาพปัญหาวิกฤตไวรัสโควิด-19 และช่วยรัฐบาลในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย จึงได้เตรียมความพร้อมยกระดับการพัฒนา เพื่อเพิ่มรายได้เข้าสู่ประเทศในระยะยาว โดยจัดทำโครงการ 1 อุตสาหกรรมจังหวัด 1 สตาร์ทอัพ (Startup) ขึ้น และได้กำหนดให้มีจังหวัดนำร่องอย่างน้อย 12 จังหวัดทั่วประเทศ ในการสนับสนุนและผลักดันสตาร์ทอัพ ให้มีการกระจายสินค้า ผ่านช่องทางการจำหน่ายที่เป็นของกระทรวงฯ และให้นำสินค้าไปขายโรงงานขนาดใหญ่ในทุกสิ้นเดือน และให้อุตสาหกรรมจังหวัดช่วยหาโรงงานอุตสาหกรรมที่มี Big Brother สามารถใช้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าได้ ซึ่งจะ มุ่งให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่เป็นการช่วยพยุงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ให้สามารถมีการขับเคลื่อนไปได้ในอนาคต