“พรรคกล้า”เคาะ “กรณ์”หัวหน้า “อรรถวิชช์” เลขาฯ

07 มี.ค. 2563 | 09:34 น.

เคาะแล้ว “กรณ์”หัวหน้าพรรคกล้า “อรรถวิชช์” เลขาฯ พร้อม 7 กก.บห.คนรุ่นใหม่หลายวงการ ย้ำ”เรามาเพื่อลงมือทำ”

วันนี้( 7 มี.ค.63) ที่อาคารบางกอกทาวเวอร์ พรรคกล้าได้จัดประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรค เพื่อพิจารณาเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค รวมถึงพิจารณาคำประกาศอุดมการณ์ นโยบาย และข้อบังคับพรรค โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งกว่า 500 คนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ก่อนเข้าประชุมมีการคัดกรองตรวจอุณหภูมิ วัดไข้ แจกหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในขณะนี้อย่างเคร่งครัด

“พรรคกล้า”เคาะ “กรณ์”หัวหน้า “อรรถวิชช์” เลขาฯ “พรรคกล้า”เคาะ “กรณ์”หัวหน้า “อรรถวิชช์” เลขาฯ

หลังจากนั้นได้มีการคัดเลือกผู้บริหารพรรค สรุปรายชื่อได้ 9 คนดังนี้คือ 1.นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค 2.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค 3.นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค 4.นายภิมุข สิมะโรจน์ รองหัวหน้าพรรค 5.นายพงษ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรค 6.นายณัฐนันทน์ กัลยาศิริ นายทะเบียนพรรค 7.ดร.เอราวัณ ทับพลี เหรัญญิกพรรค 8.นายเบญจรงค์ ธารณา กรรมการบริหาร และ 9.นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหาร

นอกจากนี้ยังได้มีการประกาศ 4 อุดมการณ์ทางการเมือง คือ 1.ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เข้มแข็งมั่นคง ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. ปฏิบัตินิยมคู่คุณธรรม นำไทยก้าวหน้า ทันสมัย พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนเปลงและวิกฤตการณ์ของโลก 3. ระบบเศรษฐกิจเสรีมีความรับผิดชอบต่อสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการแข่งขัน ขจัดการผูกขาด และ 4. คนไทย ครอบครัวไทย ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นายกรณ์ กล่าวต่อที่ประชุม

หลังได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกล้า ว่า ขอขอบคุณผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้าทุกๆ ท่านที่สละเวลามาช่วยกันสร้างพรรค ทุกคนมาด้วยความตั้งใจที่จะสร้างพรรคการเมืองที่เป็น ที่พึ่งให้กับประชาชนคนไทย ทุกคนมาด้วยเจตนามุ่งมั่นที่จะทำงานการเมืออย่างงสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหหมายสำคัญคือ “การทำให้คนไทยมีความหวังในอนาคตที่ดีขึ้น"

นายกรณ์ กล่าวว่า พวกเราในพรรคกล้า หลายคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หลายท่านเดินเข้ามาโดยที่ไม่รู้จักผมหรือใครคนอื่นเป็นการส่วนตัว แต่เข้ามาเพราะเห็นว่านี่คือที่รวมตัวของคนจากทุกสาขาอาชีพ ที่อยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้น เชื่อว่าหลายคนในที่นี้คงเหมือนกันคือ ไม่เคยคิดฝันว่าจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง แต่วันนี้เรามีทั้งนักธุรกิจ เกษตรกร ลูกจ้าง นักวิชาการ และนักการเมืองที่มีความคิดเหมือนกัน กลายเป็นเรื่องที่มั่นใจเต็มร้อยว่า ตอนนี้ไม่ทำไม่ได้แล้ว

“ผมอดขำไม่ได้ว่าทันทีที่เราประกาศตั้งพรรค ก็มีคนที่พยายามจะให้เราเป็นพวกกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่มีความขัดแย้งกันอยู่ ฝั่งขวาก็บอกว่า เราจะเข้าพวกกับฝั่งซ้าย และฝั่งซ้ายก็บอกว่าเราจะเป็นพวกกับฝั่งขวา ผมขอประกาศบนเวทีในวันนี้ว่า พรรคกล้าไม่ใช่พรรคของฝ่ายใด เราไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคในสังกัดของใครและเราจะไม่ปฏิเสธความคิดดี ๆ ของใคร ไม่ว่าเขาเคยเลือกหรือสนับสนุนพรรคใดที่ผ่านมา ขอเพียงหวังดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และมีความพร้อมที่จะทุ่มเททำงานเพื่ออนาคตที่ดีของคนไทยทุกคน" นายกรณ์ ได้ย้ำอย่างหนักแน่น

"วันนี้คนไทยกำลังพบกับความท้าทายรอบด้าน สังคมแตกแยก การทำมาหากินลำบาก ระบบราชการอุ้ยอ้าย คนเก่งคนทำงานไม่มีโอกาส กฎหมายล้าสมัย เทคโนโลยีล้าหลัง ปัญหาพื้นฐานขาดการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็น เรื่องน้ำและที่ดินของเกษตรกร เรื่องการศึกษาของเยาวชน เหล่านี้คือภารกิจของเรา เราจะรวมตัวคนมีของในแต่ละด้าน และชักชวนเขามาทำงานการเมือง ประเทศต้องอาศัยมืออาชีพทำงาน พวกเราทุกคนในพรรคกล้าขอประกาศว่า “เรามาเพื่อลงมือทำ”

“พรรคกล้า”เคาะ “กรณ์”หัวหน้า “อรรถวิชช์” เลขาฯ “พรรคกล้า”เคาะ “กรณ์”หัวหน้า “อรรถวิชช์” เลขาฯ

ด้านนายอรรถวิชช์ กล่าวอธิบายถึงสัญลักษณ์พรรคกล้ารูปมือที่หมายถึงการลงมือทำ และมีรูปทรงคล้ายหลอดไฟ ที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ด้วย พร้อมกล่าวย้ำว่า นายกรณ์เป็นพี่ที่ตนเองนับถือ ซึ่งเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในยุคที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เป็นผู้ที่ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจขึ้นมาเป็นบวก และรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานกับนายกรณ์ ที่กล้าตัดสินใจออกจากตำแหน่ง ส.ส. ตัดสินใจเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ ร่วมกันทำพรรคกล้าให้ดีที่สุด และอยากเห็นนายกรณ์เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย