วินาศภัยตั้งศูนย์ต่อเนื่องทางธุรกิจ รับมือโควิด-19

06 มี.ค. 2563 | 12:08 น.

สมาคมประกันวินาศภัย ขอความร่วมมือบริษัทสมาชิกทบทวนแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หวังป้องกันไม่ให้งานบริการลูกค้า-คู่ค้าหยุดชะงัก  หากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 คุมไม่อยู่   - ด้าน กรุงเทพประกันภัยพร้อมตั้งศูนย์สำรองสาขาย่อยพัฒนาการและแผนสำรองให้ทำงานจากบ้านในภาวะฉุกเฉิน

 

 

 

 

วินาศภัยตั้งศูนย์ต่อเนื่องทางธุรกิจ รับมือโควิด-19

 

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประกาศให้เชื้อ COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทางสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้มีหนังสือขอความร่วมมือจากบริษัทสมาชิก ในการทบทวนแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP) เพื่อให้แผนที่มีอยู่นั้นมีความ เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งด าเนินการทดสอบแผนดังกล่าวเพื่อให้มั่นใจว่า หากสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น มีการระบาดของโรค COVID-19 ในวงกว้าง ซึ่งอาจส่งผลทำให้บริษัทสมาชิกไม่สามารถ จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบปรกติได้ และมีความจ าเป็นต้องใช้แผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องแล้ว การดำเนินงานของ บริษัทสมาชิกจะไม่หยุดชะงักและเกิดผลกระทบกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียน้อยที่สุด  สำหรับการทบทวนแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องควรคำนึงถึง 8 ประเด็น 

แผนรองรับความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ด้านบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ได้ยกระดับการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP)กรณีที่จำเป็นต้องปิดอาคารสำนักงานใหญ่ชั่วคราวหรือไม่สามารถเปิดดำเนินงานได้ตามเวลาปกติ เพื่อให้บริการลูกค้าและคู่ค้าได้ต่อเนื่องโดยลดความเสี่ยงจากโควิด-19 โดย 1. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสำรอง (Alternative Site) ณสาขาย่อยพัฒนาการ พร้อมทีมงาน 174คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รับประกันภัยของทุก Business Unit เจ้าหน้าที่จากฝ่ายสินไหมทดแทน ฝ่ายสินไหมทดแทนยานยนต์ ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชม. ส่วนบริการลูกค้าและบริการกรมธรรม์ฝ่ายบัญชีและการเงิน เป็นต้น และกรณีมีความจำเป็นพร้อมเพิ่มจำนวนพนักงานได้อีก  ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปพร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติงานเช่นเดียวกับที่สำนักงานใหญ่ไว้ให้อย่างพอเพียง ทั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติการสำรองนี้ได้กำหนดมาตรการคัดกรองด้านความปลอดภัย ในสุขภาพของพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้า รวมทั้งให้ความสำคัญด้านสุขอนามัยภายในสำนักงานอย่างเข้มงวดโดยจัดให้มีการคัดกรองผู้ที่เข้ามาติดต่อภายในอาคารด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย (Thermoscan) ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัย เช่นเดียวกับสำนักงานใหญ่
2. จัดให้มีแผนรองรับสำหรับการปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from  Home) ในภาวะฉุกเฉินโดยเปิดสิทธิ์ให้พนักงานสามารถทำงานผ่านระบบออนไลน์ที่บ้านได้เช่นเดียวกับที่สำนักงานใหญ่ และจัดหาชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Microsoft Surface และโน้ตบุ๊ก จำนวน 400 ชุด ที่พร้อมสำหรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่ พร้อมทั้งดำเนินการโอนสายโทรศัพท์ของบริษัทฯ เข้าโทรศัพท์มือถือของพนักงานเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร