สุขุมวิท-รามคำแหง ร้อนฉ่า  ทุนฮ่องกง  ลุยคอนโด6,000หน่วย

08 มี.ค. 2563 | 04:00 น.

ทุนยักษ์ฮ่องกง “ริสแลนด์” เมินไวรัส“โคโรนา” ประกาศปักหมุด 4 โครงการ ยึดทำเลสุขุมวิท-รามคำแหง บิ๊กเนมไทยอ่วม ซัพพลายทะลักเข้าตลาดเกือบ 6,000 หน่วย

มหันตภัยไร้การมองเห็นจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซํ้าเติมความผันผวนเศรษฐกิจโลกและปัจจัยลบภายในประเทศ สร้างความปั่นป่วนไม่น้อยต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ทุกค่ายต่างวางแผนพัฒนาโครงการใหม่ๆ สร้างรายได้ ผลกำไรต่อเนื่อง เพื่อเจาะฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ ช่วงเริ่มต้นทำงาน ขยับขยายสร้างครอบครัว รวมถึงชาวต่างชาติท่ามกลางกำลังซื้อที่จำกัด ขณะจำนวนหน่วยของคอนโดมิเนียม รอการขายในตลาด ยังมีสะสมมากถึงกว่า 2 แสนหน่วย

นอกจาก บริษัทพัฒนาที่ดินไทยแล้ว ยังมีทุนข้ามชาติ ต่างให้ความสนใจ เข้ามาลงทุนในประเทศ เพราะมองว่าในระยะยาวยังมีศักยภาพอยู่มาก ทั้งภูมิประเทศที่เสี่ยงการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ น้อย การเชื่อมโยงหัวเมืองท่องเที่ยว สนามบินหลัก และเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร มีระยะทางไม่ห่างกันมากนัก

อีกทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญ การพัฒนาเมือง เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ทางหลวงระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) อีกทั้งทางสัญจรทั่วไป อย่าง ริสแลนด์ ประเทศไทย กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกสัญชาติฮ่องกง สร้างความตื่นตะลึงให้กับ ดีเวลอปเปอร์ไทย เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรู กลางใจเมือง รวดเดียว 4 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท มีจำนวนหน่วยใหม่ที่จะทะลักเข้าสู่ตลาดอีกกว่า 5,960 หน่วย ไม่ว่าจะเป็นย่านรามคำแหง อินเตอร์เชนจ์ สถานีลำสาลี สายสีส้ม-สีเหลือง บนที่ดิน 10 ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขอการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ โดยมีแผนพัฒนาทั้งหมดเกือบ 2,000 หน่วย

จากก่อนหน้านี้ได้เข้ามาปักหมุดในไทย ในช่วงอสังหา ริมทรัพย์บูมเมื่อปี 2561 ด้วยการซื้อซากคอนโดมิเนียมร้างกลางใจเมือง ทำเลซอยเทียมร่วมมิตร ถนนรัชดาฯ-พระราม 9 โครงการคอนโดฯไฮไรส์ สูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร 1,337 หน่วย สร้างความร้อนแรงไม่น้อยมาแล้ว ซึ่งปัจจุบัน ริสแลนด์ยอมรับว่ามีลูกค้าชาวจีนให้ความสนใจซื้ออยู่อาศัยและลงทุนไปเต็มทั้งหมดแล้ว ตามโควตากฎหมายไทย จำนวน 2 อาคาร กว่า 700 หน่วย อีกทั้งบ้านหรูบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ย่านพระราม 2

สุขุมวิท-รามคำแหง ร้อนฉ่า  ทุนฮ่องกง  ลุยคอนโด6,000หน่วย

จากการให้สัมภาษณ์ของ นายเนี่ย ซงเชียน ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการขายและการตลาด ประจำภูมิภาคไทย บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ทุนข้ามชาติจากฮ่องกง 100% ที่ระบุว่ามีความมั่นใจสูงต่อศักยภาพของประเทศไทย ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ต่อเนื่อง ทำเลใจกลางเมืองแนวเส้นทางรถไฟฟ้า

อย่าง คลาวด์ เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 23 เป็นอาคารสูง 43 ชั้น จำนวน 372 หน่วย ซึ่งพื้นที่โดยรอบมีโครงการของดีเวลอปเปอร์ไทยเปิดขายด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่าท่ามกลางการเกิดไวรัสโคโรนารุนแรง อนาคตจะเน้นขายให้กับลูกค้าชาวจีนให้อพยพมา ไทยหรือไม่ นายเนี่ย ยืนยันว่าส่วนหนึ่งขายให้กับคนชาติเดียวกันแต่ส่วนใหญ่แล้วเน้นขายให้กับคนพื้นที่หรือคนไทยนั่นเอง ซึ่งมองว่าคนไทยจำนวนมากยังมีกำลังซื้อ อีกทั้งยังต้องการโครงการที่มีระบบความปลอดภัยที่ดี

สำหรับคอนโดมิเนียมที่บริษัทพัฒนาในประเทศไทย หากรวมเมื่อช่วง 2 ปีก่อน มีจำนวนหน่วยไม่ต่ำกว่า 10,000 หน่วย ซึ่งถือว่ามากทีเดียวสำหรับบริษัท แต่เนื่องจากการมีสายป่านที่ยาวบริษัทยังมุ่งเน้นขยายการพัฒนาไปทั่วโลกโดยเฉพาะในแถบเอเชียนับแสนล้านบาท

ขณะความชื่นชอบของผู้บริโภค ส่วนใหญ่เน้นทำเลสุขุมวิท เนื่องจากมีรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว สะดวกต่อการเดินทาง แม้พบจำนวนหน่วยเปิดขายในปีนี้ 8,795 หน่วยลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่เปิดขายที่ 19,691 หน่วย โดยเฉพาะอโศก คอนโดฯ ระดับลักชัวรีมีค่อนข้างมาก

การเข้ามาบุกตลาดของ ริสแลนด์ (ประเทศไทย) นับตั้งแต่ช่วงตลาดบูมปี 2561 จะมีซัพพลายเข้ามาเติมซัพพลายในตลาดเพิ่มขึ้น เพราะ 4 โครงการ แม้ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ถูกเลื่อนมาจากปีก่อน จากสถานการณ์ไม่เป็นใจ และจำนวนโปรเจ็กต์ไม่มากมาย เมื่อเทียบกับรายใหญ่ของไทย แต่พบมูลค่าโครงการที่จะเกิดขึ้น (กรณีเป็นไปตามแผน) จะมีมากถึง 3.04 หมื่นล้านบาท 5,960 หน่วย โดยเฉพาะโปรเจ็กต์ในกรุงเทพฯ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ สกาย ริส อเวนิว สุขุมวิท 64 บนเนื้อที่ประมาณ 22 ไร่ ย่านปุณณวิถี ซึ่งจะประกอบไปด้วยคอนโดฯถึง 7 ตึก รวม 3,000 หน่วย โดยมีแผนพัฒนาเป็นเฟสๆ ส่วนย่านรามคำแหง ภายใต้แบรนด์The LIVIN” อีกจำนวน 1,938 หน่วย และอีก 1 โครงการที่ประกาศจะเปิดตัวไปแล้ว เดอะ คลาวด์ เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 23 จำนวน 372 หน่วย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ที่ยังมองว่าจังหวะนี้ไทยยังเป็นโอกาสในการกระจายการลงทุน

สำหรับดีเวลอปเปอร์ไทย แม้จะได้รับผลกระทบทั้ง กฎเหล็ก การควบคุมการปล่อยสินเชื่อ แอลทีวี ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และลูกค้าจีนลดลง แต่ยังเชื่อว่าในอนาคตจะมีการเดินทางกลับเข้ามา ขณะการปรับตัวหลายค่ายเน้นไปที่แนวราบ การลงทุนโรงแรม ธุรกิจรูปแบบเช่ามากขึ้น

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัทพร้อมรุกตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมด้วยทำเลศักยภาพ อาทิ พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และฉะเชิงเทรา เพื่อครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาค สำหรับในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ทำเลที่น่าสนใจยังเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากขึ้น และรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอย่างสายสีเหลือง สีชมพู และสีส้ม

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,555 วันที่ 8-11 มีนาคม 2563