>> เฮ้อ!! เป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่บอกเลยว่า เจ๊เพลียทั้งตัวแล้วก็เพลียทั้งใจ ก็แหม...คุณขา ตอนกลางวันเจ๊เมาธ์ต้องมานั่งเฝ้าตลาดหุ้นไทยที่สวิงขึ้น ๆ ลงๆ ยังกับรถไฟเหาะตีลังกา ส่วนกลางคืนเจ๊ยังต้องมาลุ้นดัชนีดาวโจนส์ว่า พี่โจนส์ของเจ๊ จะมาจะไปทางไหน ไอ้ตลาดหุ้นประเภทวันนี้ขึ้นพันจุด...พรุ่งนี้ลงพันจุด แบบนี้มันน่าจะเป็นฺ เข้าข่ายโรคจิตนะคะ ให้เจ๊นั่งรถไฟเหาะนี่เจ๊คิดว่าเจ๊ยังพอทนได้ แต่ถ้านั่งเฝ้าผัวฝรั่งโรคจิตนี่ เจ๊ไม่ไหวละค้า
>> ทันทีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ยสู้ COVID-19 ลงไปตั้ง 0.5% แบบฟ้าผ่า ข่าวลือก็หนาหูขึ้นมาทันทีว่า ปลายเดือนนี้ กนง. ของไทยอาจจะต้องจัดบ้าง...อาจจัดไม่หนักถึง 0.5% แต่เสียงกระซิบก็บอกมาว่า อย่างน้อยๆ ต้องเห็น 0.25% เพราะไม่อย่างนั้นเศรษฐกิจไทยมีแต่พังกับพังนะคะ
>> และถ้า กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย หุ้นกลุ่มที่จะได้รับอานิสงส์กลุ่มแรกก็ต้องเป็นกลุ่มลีสซิ่งอย่าง SAWAD , MTC, AEONTS, SINGER หรือแม้กระทั่งพวกบัตรเครดิตอย่าง KTC พวกนี้จะได้รับอานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงกันไปเต็มๆ
>> ส่วนอีกพวกที่จะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงก็คือ กลุ่มอสังหาฯอย่าง SPALI, AP ORI และ SENA ขณะที่หุ้นอีกกลุ่มที่เจ๊เมาธ์ เห็นว่าน่าจะได้ประโยชน์ทางตรง ก็คือหุ้นกลุ่มบริหารหนี้อย่าง BAM , JMT และ CHAYO โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ BAM ที่เจ๊เมาธ์ พูดถึงอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่าใคร
>> ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น KBANK, SCB, BBL หรือ KTB ดูเหมือนว่าจะกลายเป็น
>> กลุ่มผู้เสียหายมากที่สุด จากภาวะดอกเบี้ยขาลง แต่ในมุมมองของเจ๊เมาธ์...เจ๊กลับมองต่างออกไป จังหวะนี้เจ๊มองว่าเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการเงิน ซึ่งหุ้นกลุ่มธนาคารกำลังอยู่ในช่วงการปรับฐาน ไปหาราคาใหม่ที่เหมาะสม และในขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของธนาคารใหญ่แต่ละตัว ก็ร่วงลงมาจนราคาหุ้นหน้ากระดานตํ่ากว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีเกือบๆ เท่าตัวกันทั้งนั้น ถ้ารอจังหวะดีๆ อีกหน่อย เจ๊เมาธ์ว่า หุ้นธนาคารนี่ละน่าสนมากๆ ค่ะ
>> พูดถึงธนาคารใหญ่ ก็ต้องวนกลับไปที่ดีลการซื้อ Permata Bank ธนาคารใหญ่อันดับที่ 12 ของประเทศอินโดนีเซีย 2,674 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 81,017 ล้านบาท ของ BBL ที่จบดีลไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งดีลที่ว่าก็ทำให้ราคาหุ้นของ BBL ถึงกับออกอาการเป๋ไป ร่วงลงจาก 170 บาท เหลือแค่ 151 บาท ในเวลาเพียงแค่ 3 วัน และล่าสุดก็มีข่าวลือหนาหูว่า BBL อาจจะเข้าไปซื้อธนาคารที่ประเทศอินโดฯ เพิ่มเข้ามาอีก
>> ข่าวการซื้อธนาคารที่อินโดฯ ทำให้ราคาหุ้นของ BBL เริ่มทรุดตัวลงไปอีกครั้ง...จากราคาหุ้น 136-137 บาท ทรุดลงไปเหลือเพียงแค่ 130 บาท เท่านั้น แต่เจ๊เมาธ์กลับเห็นว่า การที่แบงก์กรุงเทพ จะเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนบ้างถึงแม้จะไม่มาก อย่างการซื้อธนาคาร อย่าง Permata Bank หรือธนาคารใหม่ที่กำลังมีข่าวลือเกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างน้อยมันก็คือการใช้เงินทำงาน ได้ผลตอบแทนนิดหน่อย...ดีกว่ากองเงินทิ้งไว้เฉยๆ โดยที่ไม่มีผลประโยชน์งอกเงยใด ๆ นี่นา จริงมั้ยคะ
>> กลับไปที่หุ้นโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM ของ เจ๊ปรียนาถ สุนทรวาทะ คนสวยกันดูอีกที ช่วงนี้ราคาหุ้นวิ่งแรงดีจังเลยนะคะคุณเจ๊ปรียนาถเจ้าขา ถ้าหากว่าเจ๊เมาธ์ไม่ได้ตามราคาหุ้นโรงไฟฟ้ามาก่อน...เจ๊เมาธ์ก็คงจะต้องกลายเป็นหนึ่งในคนที่นอนฝันถึง BGRIM แน่นอนค่ะ แต่พอเห็นว่าโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM พึ่งฟื้นไข้...แล้วก็รีบมาไล่ราคา แบบนี้ เจ๊เมาธ์ก็อดเป็นห่วงสุขภาพของ BGRIM ไม่ได้จริงๆ ค่ะ กลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งไปได้ง่ายๆ เอาน้า แล้วถ้าเป็นอะไรไปตอนนี้มันจะฟื้นยากนะคะ!!! ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ก้าว รักษาจังหวะกินเบาๆ เอาแค่พองามก็ดี เจ๊เมาธ์เป็นห่วง BGRIM จริงๆ ค้า
>> เสี่ยใหญ่-ใจชอบเที่ยว “พิทักษ์ รัชกิจประการ” ซีอีโอ ปั๊มนํ้ามันเขียว “พีทีจี เอ็นเนอร์ยี” (PTG) น้องชาย “พิพัฒน์” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ยกก๊วนเฉพาะนักข่าวที่สนิทชิดชอบ ไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกปี ๆ ปีนี้ โควิด-19 ญี่ปุ่นมาแรง อุตส่าห์หลบไปเยอรมนี ไวรัส-วายร้าย เจ้ากรรมตามไปถึงเยอรมนี “เสี่ยพิทักษ์” และก๊วนนักข่าวสายตลาดหุ้น ยกเลิกทริปเยอรมนีปาร์ตี้ไปเลยค้า
>> มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ หาซื้อทอง ยังง่ายกว่าหาซื้อมาสก์ปิดปาก หรือหน้ากากอนามัย มีทั้งขายเกินราคา พุ่ง 10 เท่า หรือไม่มีขายเลย ไม่ต้องหาแล้วค่ะ รอๆ ค่ะ ตอนนี้ “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” อัด 100 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย เท่านี้ยังไม่พอค่ะ เจ้าสัวพ่อครัวโลก ส่งอาหารปลอดภัย ไร้เชื้อ สนับสนุนอาหารสำหรับผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลของรัฐทั่วประเทศ ...ทำดีต้องแชร์และชมนะคะ