“จีน”เร่งวิจัยวัคซีน สกัดเชื้อโคโรนา

05 มี.ค. 2563 | 04:39 น.

“จีน”เร่งวิจัยวัคซีน สกัดเชื้อโคโรนา

วันที่  5 มี.ค. 63 พล.ต. ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม  ประมวลข้อมูลประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อป้องกันและควบคุมโควิด-19 ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 2 มี.ค.63 ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
 

1. ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางของจีน ได้กล่าวเน้นขณะตรวจเยี่ยมหน่วยฯ ว่า
     1.1. ต้องจัดให้ความปลอดภัยด้านสิ่งมีชีวิตเป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งของความปลอดภัยแห่งชาติในภาพรวม มีการพัฒนาทักษะและความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดและทำให้งานสาธารณสุขเข้มแข็งยิ่งขึ้น
    1.2 ต้องปรับปรุงระบบเตือนภัยเพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อก่อตั้งระบบบัญชาการ ปฏิบัติการ และหลักประกันหลังจากเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค
    1.3 วัคซีนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ดังนั้น จีนต้องเร่งวิจัยพัฒนาวัคซีนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันต้องติดตามผลคืบหน้าด้านการวิจัยและการพัฒนาของต่างประเทศอย่างใกล้ชิด มีการส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อให้วัคซีนเข้าสู่ช่วงทดสอบทางคลินิกและการใช้งานในการตลาดโดยเร็ว โดยจีนต้องพัฒนาระบบสำรองวัคซีนแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมต่องานป้องกันและควบคุมโรคระบาดซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเรื่องที่จะพบบ่อยครั้งมากขึ้น


     1.4ต้องจัดการวิจัยเกี่ยวกับ แหล่งที่มา และวิถีการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างประสานกัน เพื่อเรียนรู้ให้แน่ชัดว่า แหล่งที่มาของไวรัสมาจากไหน และจะไปทางไหน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพความถูกต้องแม่นยำของการตรวจตราอีกด้วย
     1.5 ต้องสร้างระบบใหม่ของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นแก่นแท้ของชาติ โดยเพิ่มการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข รวมทั้งส่งเสริมงานวิจัยขั้นพื้นฐานของวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต เพื่อให้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลและสุขภาพมีผลคืบหน้าเชิงรุก
     1.6 ต้องเร่งพัฒนาและส่งเสริมทักษะและความสามารถด้านการสำรองทางยุทธศาสตร์และพลังทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงเทคโนโลยีด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อและสาธารณสุข  ขจัดข้อกีดขวางด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ เพื่อให้สามารถถือครองลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของอุปกรณ์ชั้นสูงในการรักษาพยาบาล      
     1.7 ในกระบวนการต่อสู้โควิด-๑๙ จีนต้องถือครองทรัพย์สินทางปัญญาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น ประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มแข็งให้มากยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องความปลอดภัยทางชีวิตและสุขภาพของประชาชน และมีส่วนช่วยเหลือในการปกป้องความปลอดภัยทางยุทธศาสตร์แห่งชาติ

 

“จีน”เร่งวิจัยวัคซีน สกัดเชื้อโคโรนา   

 2. หน่วยงานที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมในวันที่ 2 มี.ค.63 ได้แก่ สถาบันวิจัยการแพทย์ทางการทหาร และสถาบันการแพทย์ของมหาวิทยาลัยชิงหวา เพื่อศึกษางานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งงานการรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องวัคซีน ภูมิคุ้มกัน เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์การตรวจไวรัสอย่างรวดเร็ว และงานด้านการวิจัยและการประยุกต์ อีกทั้งได้ไปพบและให้กำลังใจแก่ผู้เชี่ยวชาญตลอดจนเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

 

บทสรุป  ในขณะตรวจเยี่ยมหน่วยงานวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคที่กรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวเน้นว่า จีนเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวน 1,400 ล้านคน การป้องกันและควบคุมโรคระบาดขนาดใหญ่  และป้องกันความเสี่ยงด้านสาธารณสุข จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่มีความสำคัญและประมาทไม่ได้ ดังนั้น งานที่เร่งด่วนและสำคัญที่สุดคือต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งต้องเร่งวิจัยยา ใช้ทั้งยาจากแพทย์แผนจีนและยาตะวันตก ส่งเสริมการใช้ยาที่ให้ผลการรักษาดี โดยพัฒนาและคัดกรอง ในขณะเดียวกันก็ตรวจชุดยารักษาที่ได้ผล ตามความต้องการของผู้ป่วย รวมทั้งหาวิธีการรักษาใหม่ ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้น นอกจากนี้ ควรให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาแก่ผู้ป่วยและครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย