“AAV”กัดฟันสู้ยันไม่เลย์ออฟ แต่สลับวันทำงาน
“ไทยแอร์เชีย”ยันยังไม่ลดพนักงานทั้ง 8 พันคนแต่ยอมรับว่ามีการสลับวันทำงานลดค่าใช้จ่าย ด้าน “ไทยเวียตเจ็ท” ดิ้นหันเปิดเส้นทางบินใหม่ในประเทศเชื่อมอาเซียน
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เจ้าของสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวหลังหารือกับกระทรวงคมนาคมถึงมาตรการในการขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินทั้ง 17 สายว่า
“มาตรการที่ต้องการมากที่สุด โดยการปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าขึ้นลงสนามบิน ค่าจอด ค่าบริการจัดจราจรทางอากาศ ค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน อยากขอให้ช่วยลดนาน 1ปีหรือ2 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะพิจารณาให้ได้มากแค่ไหน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลด้วย”
ส่วนมาตรการที่สายการบินทำกันขณะนี้เร่งลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งสายการบินที่มีเที่ยวบินจำนวนมากก็ต้องหาทางปรับลดค่าใช้จ่ายมากตามไปด้วย หลังเดือนกุมภาพันธ์จำนวนเที่ยวบินลดลงไปกว่า 7,000 กว่าเที่ยวบินแล้วและมีแนวโน้มจะปรับลดเพิ่มขึ้นอีกหากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาโควิด-19 ยังยืดเยื้อ
“ในส่วนของพนักงานนั้นขณะนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย และแอร์เอเชียเอ็กซ์มีพนักงานรวมทั้งสิ้น 8,000 คน ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการปรับลดพนักงานหรือให้พนักงานหยุดงานโดยไม่รับเงินเดือนแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ามีการให้สลับหยุดบ้างและมีการตัดค่าใช้จ่ายบางส่วน แต่ยืนยันว่าทุกคนยังมีตำแหน่งงานอยู่ไม่ได้ปลดหรือลดคนแน่นอน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าในเดือนพฤษภาคม สายการบินจะมีการปรับลดพนักงานนั้นยืนยันว่ามีเป็นเพียงเสียงลือเท่านั้น” ซีอีโอ ไทยแอร์เอเซียกล่าว
ด้านนายสถิระวัฒน์ พลนาค กรรมการผู้จัดการ สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ปัญหาไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสายการบินไทยเวียตเจ็ทเป็นอย่างมากทำให้ ต้องปรับลดความถี่เที่ยวบินและหยุดบินในพื้นที่เสี่ยง ส่งผลให้อัตราการใช้เครื่องบินของบริษัทจำนวน 11 ลำ ลดลงจาก 12 ชั่วโมงต่อวัน เหลือ 8 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ก็ลดลงมาก
“ ไทยเวียตเจ็ทก็ได้ร่วมกับสายการบินอื่นๆ ยื่นมาตรการขอความช่วยเหลือโดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ในสนามบินและการขอวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อมาช่วยเสริมสภาพคล่องและปัจจุบันเร่งเสนอมาตรการเพื่อพยุงให้สายการบินอยู่รอดเป็นหลักก่อน”
ทั้งนี้ได้มีมาตรการลดผลกระทบ ได้แก่ เปิดเส้นทางบินใหม่ภายในประเทศไทยและเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน จัดทำแคมเปญลดค่าโดยสาร สร้างความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศ รวมถึงตัดลดต้นทุนและพยายามหมุนเวียนเครื่องบินในเส้นทางต่างๆ เพื่อไม่ให้เครื่องจอดนิ่ง พร้อมยืนยันว่าบริษัทยังไม่มีมาตรการ การเลิกจ้าง หรือให้หยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without Pay) ที่ส่งผลกระทบต่อพนักงานจำนวน 800 คน
อย่างไรก็ดีมาตรการต่าง ๆ ที่ทั้ง 17 สายการบินนำเสนอจะมีการนำเข้าไปพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ วันที่ 6 มีนาคมนี้