ด่วน!ธนาคารกลางสหรัฐฉีดยาแรงลดดอกเบี้ย0.5%

03 มี.ค. 2563 | 15:28 น.

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19

เฟดออกแถลงการณ์ ระบุ"ท่ามกลางความเสี่ยงเหล่านี้ และเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของเฟดในการรักษาเสถียรภาพของราคา และการจ้างงานเต็มศักยภาพ FOMC จึงตัดสินใจในวันนี้ในการปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น" แถลงการณ์ระบุ
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินในวันนี้ มีขึ้นก่อนการประชุมตามปกติของเฟดที่มีกำหนดในวันที่ 17-18 มี.ค.ที่จะถึงนี้

ก่อนหน้านี้สำนักวิจัยมูดี้ส์ อะนาไลติกส์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้หากการแพร่ระบาดลุกลามกระจายกว้างไปทั่วโลก รัฐบาลหลายประเทศเร่งอัดฉีดงบพิเศษเพื่อรับมือการแพร่กระจายของไวรัสและนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาใช้เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น

ญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และจีน เป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องพบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเร็วๆนี้ (โดยหลักการคือมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน) โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัว 1.6% คาดว่าสถานการณ์จะยังไม่ดีขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากเพิ่งมีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อไม่นานซึ่งส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคแผ่วลง

นอกจากนี้การส่งออกยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ตามด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวและค้าปลีก อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในเดือนกรกฎาคมอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง

อีกฟันเฟืองเศรษฐกิจโลกที่น่าจับตาคือเยอรมนี ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก การผลิตในภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกชะลอตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ลดลงและผลกระทบจากสงครามการค้า บุนเดสแบงก์ หรือธนาคารกลางของเยอรมนี ออกมายอมรับต้นสัปดาห์นี้ว่า อุตสาหกรรมหลักๆของประเทศ ตั้งแต่อุตสาหกรรมรถยนต์จนถึงเคมีภัณฑ์ จะยังชะลอตัวต่อไปสะท้อนจากยอดสั่งซื้อที่ลดลง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถาบันวิจัยของมูดี้ส์คาดการณ์ว่า ในปีนี้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นและเยอรมนีน่าจะมีการเติบโตเพียง 0.3% และ 1% ตามลำดับ ขณะที่เศรษฐกิจจีนซึ่งปีที่ผ่านมาขยายตัวที่ระดับ 6% คาดว่าผลกระทบจากโรคระบาดที่เกิดขึ้นจะทำให้การขยายตัวตลอดทั้งปีนี้อยู่ที่ระดับ 5.2% เท่านั้น นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเชื่อว่าไตรมาสแรกของปีนี้ จีนซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะได้พบกับการขยายตัวในอัตราตํ่าที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3-4% ก็เป็นได้