รมว.ศธ.มอบอาชีวะผลิตหน้ากากเพิ่ม

03 มี.ค. 2563 | 14:07 น.

“ณัฏฐพล”ลุยแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน มอบ สอศ. เร่งอาชีวะผลิตหน้ากากผ้าไส้กรองเพิ่มมากกว่าเดิมที่สั่งผลิต 5 หมื่นชิ้น เพื่อแจกประชาชน พร้อม”สั่งพักงาน”ครูล่วงละเมิดทางเพศเด็กแลกเกรด เผย หากไม่มีฟ้องร้อง จี้ให้ผู้เกี่ยวข้องใช้อำนาจดำเนินการขั้นเด็ดขาด

3 มีนาคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ว่า ได้หารือถึงการป้องกันไวรัส COVID-19 รวมถึงมาตรการต่างๆ เพื่อให้ล้อและยึดแนวทางการปฏิบัติตามมาตรกาของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หลังจากแพร่ระบาดขยายประเทศกลุ่มเสี่ยงเพิ่มอีก 2 ประเทศ คืออิตาลี และเยอรมนี  รวมเป็น  9 ประเทศ หากรวมฮ่องกง และมาเก๊า เป็น 11 ประเทศ โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการนั้นขณะนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทำการผลิตหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้ามีไส้กรอง เพิ่มเติมจากเดิมที่ได้สั่งผลิตไว้แล้ว 50,000 ชิ้น เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ ขยายการครอบคลุมไปถึงความต้องการของประชาชนทั่วไปด้วย

นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือให้ทุกส่วนราชการงดเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีกลุ่มคนจำนวนมากด้วย ซึ่งเป็นการยกระดับขึ้นตามความร้ายแรงที่ได้รับทราบข้อมูลมา  แต่ทั้งหมดนี้ผมก็ยังมั่นใจในขบวนการที่เรายังสามารถควบคุมได้อยู่

นายณัฏฐพล บอกด้วยว่า  ที่ประชุม ครม. ยังมีการหารือถึงเรื่องการผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งขณะนี้ยังมีความต้องการ และขาดแคลนอยู่ จึงมีการพูดถึงเรื่องหน้ากากทดแทน ซึ่งเป็นหน้ากากที่ทำด้วยผ้า ซึ่งในส่วนจองกลุ่มอาชีวะที่ผลิต เป็นหน้ากาผ้าที่มีไส้กรอง ซึ่งขณะนี้ทำอยู่ และจะเพิ่มกำลังการผลิต ขึ้นมาทดแทน ซึ่งจะทำให้ลดความกดดัน

ทั้งนี้ นายณัฏฐพล บอกต่อว่า  ส่วนพื้นที่ในการผลิตหน้ากากนั้น กำลังพิจารณาอยู่ว่า  อาจจะใช้พื้นที่อาชีวะที่ปิดตัวลง มาใช้เป็นสถานที่ในการผลิต ขณะที่ผู้บริหารของศธ. ก็จะหาช่องทางในการซื้อวัสดุที่ใช้ในการผลิตหน้ากาก  ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันฝุ่น PM2.5 ด้วย แต่ขาดแคลน

“เราก็จะทำหน้ากากผ้าสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งหน้ากากนี้จะนำวัสดุมาผสมสานกันเพื่อช่วยป้องกันทั้งไวรัส COVIC -19 และ PM2.5 ในเวลาเดียวกัน”

นอกจากนี้นายณัฏฐพล ยังกล่าวถึงกรณีล่าสุดที่ครูได้ทำการล่วงละเมิดทางเพศเด็กเพื่อแลกกับคะแนน และเกรดนั่น  เรื่องนี้เป็นความผิดที่ร้ายแรงมาก  และไม่ปล่อยให้คนๆ นี้ ทำงานในกระทรวงศึกษาแน่นอน
“ตอนนี้ได้พักใบอนุญาตแล้ว ตรงตามแนวทางที่ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการวางไว้ และหากไม่มีการฟ้องร้อง ผมกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องใช้อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ และติดตามอย่างเข้มงวด เพื่อให้เอาผิดกับคนที่ทำผิด”นายณัฏฐพล กล่าว