BDMS รวบหุ้นไร้มิตร? กับโอกาสการเปลี่ยนใจ ของ ‘หมอเสริฐ’

03 มี.ค. 2563 | 11:15 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3554 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 5-7 มี.ค.63 By…เจ๊เมาธ์

 

          ตลาดหุ้นทุกวันนี้ ไม่มีคำว่าเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ มีแค่คำว่า “แค่ไหนกับเท่าไหร่” แค่นั้นเองนะคะ ตอนขึ้น...ก็ถามว่าจะขึ้นแค่ไหน ส่วนเวลาลงก็ถามกันว่าลงเท่าไหร่ ยิ่งช่วงนี้ดัชนีหุ้นผันผวน สลับกับขึ้นลงเป็นรถไฟเหาะตีลังกา ลองคิดดูว่าถ้าติดหุ้นอยู่มันจะเสียวแค่ไหนนะคะ...เจ๊เมาธ์บอกได้แค่ว่าเสียวว เกินคำบรรยายจริง ๆ ค้า

          ตัวแรกที่เจ๊เมาธ์สนใจที่สุดของวันนี้ เป็นแก๊งหุ้นโรงไฟฟ้าขาใหญ่ GULF GPSC แล้วก็ BGRIM แค่ 3 ตัวนี้ล่ะค้า ถ้าเป็นเมื่อเดือนสองเดือนที่ผ่านมา เจอหน้าใครก็ต้องถามกันว่า “มีหุ้นโรงไฟฟ้าหรือยัง” แต่ตอนหลังๆ นี่ต้องเปลี่ยนมาถาม “ขายหุ้นโรงไฟฟ้าหรือยัง” แทนที่กันแล้วค่ะ เพราะนอกจากพี/อีจะสูงเกินมูลค่าแล้ว นักลงทุนเริ่มรู้ทันว่า โรงไฟฟ้าไม่ได้ขายแค่ไฟฟ้า แต่โรงไฟฟ้ายัง “ขายฝัน” กันด้วยนะคะ พอนักลงทุนรู้ทัน ราคาหุ้นก็เลยทั้งเดี้ยง ทั้งรูด!! แบบนี้ล่ะค่ะ

          มาที่ BAM กันอีกที รายนี้กำไรงวดปี 2562 ออกมามากกว่าปี 2561 ถึง 25% ใครๆ ก็บอกว่าใช้ได้ แต่กำไรไตรมาส 4/2562 ที่ออกมาแค่ 1,667 ล้านบาท กลับออกมาตํ่ากว่าไตรมาส 4/2561 อยู่ถึง 11% ทำให้ราคาหุ้นไหลลงมายืน ราคาแค่ 21-22 บาท จากราคาเดิมที่ 27-28 บาท ...นี่ดูมันจะตํ่าและร้ายแรงเกินไปหน่อยนะคะ เอาเป็นว่า เรื่องราคาหุ้นมักเป็นไปตามกลไกของราคา แต่ในมุมมองของเจ๊เมาธ์ ก็ยังมองว่าราคา 25-27 บาท นี่ล่ะดูดีแล้วค้า แหม...นี่เจ๊ยังมองตํ่ากว่า บล.หยวนต้าฯ เขาน้า..รายนั้นเขาให้สูงตั้ง 34 บาทเลยค่ะ

 

          แต่โรงไฟฟ้าที่ดูเหมือนว่าจะฉีกแนวออกไป จนกลายมาเป็น “อดีตโรงไฟฟ้าตัวจี๊ด” อย่าง “ขาไก่” SUPER ของ “เสี่ยตั้ม” จอมทรัพย์ โลจายะ ตอนนี้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นหุ้นดี พี/อี ตํ่า ไปแล้วค่ะ ตํ่าหรือไม่ตํ่า ตอนนี้พี/อีก็แค่ 4.74 เท่า ขณะที่กำไรปี 2562 พี่แกก็ปาเข้าไปถึง 2,137 ล้านบาท โตขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเลยเชียวนะคะ แหม...เจ๊เมาธ์ไม่อยากจะบ่นว่า นับตั้งแต่ “เสี่ยตั้ม”  แยกทางเดินกับ “เสี่ยประเดช” มาแค่ไม่กี่ปี ราคาหุ้นของ SUPER ดูเหมือนจะขาดสีสันไปเยอะเลยน้า เอ...หรือว่าเสี่ยตั้ม กำลังแต่งตัวอยู่นะคะ เอาเป็นว่าตอนนี้แฟนคลับอยากให้เสี่ยตั้ม ทำการปั่น เอ๊ยย...อยากให้ทำการปั้นราคาหุ้นให้สมกับที่เป็นหุ้นดี พี/อี ตํ่า ตัวจริงเสียงจริงซะทีนะคะ รีบ ๆหน่อยก็ดี..ตอนนี้แฟนคลับคันไม้คันมือเต็มที่แล้วค่ะ

          มีแฟนคลับของเจ๊เมาธ์ สอบถามเรื่องการฮุบหุ้น BH จากค่าย BDMS ของ “หมอเสริฐ” นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มาว่า มันจะทำได้จริงหรือไม่ แล้วมันน่ากลัวตรงไหน เอาเป็นว่าเจ๊จะตอบคำถามให้ค่ะ

          ตอนนี้ BDMS ถือหุ้น BH อยู่ 25% แล้วก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BH ด้วยนะคะ ส่วนทาง “โสภณพนิช” ที่ออกมาค้าน กลุ่มนี้เป็นแค่เสียงส่วนน้อย ต่อให้ “โสภณพนิช” ไม่มีใครขายหุ้นออกมาเลยสักคน กลุ่ม BDMS สามารถใช้วิธีการเจรจาซื้อผ่านผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่นได้อยู่ดี เอาเป็นว่า ไม่แตะหุ้นของ “โสภณพนิช” แม้แต่หุ้นเดียว BDMS ก็สามารถมีสิทธิ์ขาดในการกำหนดทิศทางของ BH ได้อยู่แล้วค่ะ

 

          แล้วที่ถามว่า น่ากลัวตรงไหน!!!! เรื่องนี้เอาแค่เรื่องหุ้น ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องการผูกขาด เรื่องค่าการรักษาพยาบาลนะคะ เรื่องของเรื่องก็คือ BH จะกลายเป็นหุ้นปั่น ล่อแมลงเม่ารายย่อยเข้าไปเล่นกับไฟ จากราคาหุ้น BH ที่ถูกดันจากข่าวการซื้อหุ้นที่ 125 บาท แล้วบวกให้ได้อีก 20% (เท่ากับ 150 บาท) ตาม Story ที่แต่งเอาไว้ ...แต่สุดท้ายราคาหุ้นของ BH จะต้องถูกกดลงมาเพื่อให้ BDMS ซื้อได้ในราคาที่ตํ่าที่สุดนะคะ ถึงวันนั้นรายย่อยก็ติดดอยแล้วค่ะ...อย่าลืมว่า BDMS คือผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่มีหุ้น BH อยู่ในมือถึง 25% เชียวนะคะ เพราะฉะนั้นเรื่องการลากราคา หรือกดหุ้น BDMS ทำได้แน่นอนค่ะ ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจา แค่นี้ทุกอย่างก็ “จบ” แล้วนะ

          เรื่องหุ้นจบก็จริงค่ะ แต่เรื่องควบรวม ผูกขาดการรักษา ไม่ง่ายค่ะ...กขค. ไม่ใช่ก้างขวางคอนะคะ เป็นชื่อย่อของ คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กระโดดออกมาร่วมวงกับ BH หาก “หมอเสริฐ” คิดจะกินรวบคนเดียว ไม่ง่ายซะแล้ว เพราะต้องขอความเห็นชอบ และผ่านการพิจารณาว่าผูกขาดการรักษาหรือไม่ คณะกขค. คงมองเรื่องผูกขาด เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวค่ะ เรื่องนี้ไม่ง่ายซะแล้วค่ะหมอขา จะเปลี่ยนใจมั้ยคะ “หมอเสริฐ” ขา ยังทันนะคะ เพราะยังไม่ได้ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น

          โอ๊ย ๆ หุ้น PSTC ที่มี “ต่อ-เอ๋” หรือ “โสมพัฒน์- วัลลภา ไตรโสรัส” ลูกเขย-ลูกสาว “เจ้าสัวเจริญ” ถือหุ้นใหญ่รวมกันเกือบ 17% ถูกเททิ้ง-เทขว้าง ด้วยความไม่ชำนาญในเรื่องการพยุงหุ้นของ 2 ผู้บริหาร “พระนาย กังวาลรัตน์-ภาณุ ศีติสาร” เป็นต้นเหตุราคาฟลอร์ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ จากหุ้นล็อตเบ้อเริ่ม รวม 2 ท่านเข้าไปกว่า 466 ล้านหุ้น ถูกโบรกเกอร์บังคับขายออกมา เจ๊ว่าเรื่องแบบนี้ ไม่ควรจะเกิดกับผู้บริหาร 2 คนนี้ ไปกระซิบบอกกันดี ๆ กับ “ต่อ-เอ๋” ให้มาช่วยรับ ดีกว่าทำร้าย (หุ้น) กันแบบนี้ เอ๊ะ!!!! หรือว่าบอกแล้วแต่ถูกปฏิเสธจาก 2 ผู้ยิ่งใหญ่นี้ ...เจ๊เมาธ์ไม่เดาดีกว่าค่ะ