บุกโวยเขตคลองเตยยึดเสื้อวินคนกระทืบแกร็บ

03 มี.ค. 2563 | 08:31 น.

พี่วินฯ”โวย! กทม.เตรียมลงดาบยึดเสื้อวิน 3 ปี กรณีวิวาทแกร็บ

 

 

กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง กว่า 20 คน เดินทางมาที่สำนักงานเขตคลองเตย เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกายกันระหว่างวินรถจักรยานยนต์รับจ้างกับคนขับแกร็บไบค์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้มีการพิจารณาเตรียมถอดถอนเสื้อวิน

 

สืบเนื่องจากกรณีวิน จยย.ปากซอยสุวิท 48 เขตคลองเตย ก่อเหตุรุมทำร้ายแกร็บไบค์นั้น คืบหน้าเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่สำนักงานเขตคลองเตย

บุกโวยเขตคลองเตยยึดเสื้อวินคนกระทืบแกร็บ

 นายเฉลิม ช่างทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังหารือกับคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่ายประจำพื้นที่เขตคลองเตย ประกอบด้วย สำนักงานเขตคลองเตย กรมการขนส่งทางบก สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร หรือ กอ.รมน.กทม. ว่า อยากให้ผู้บริหารของแกร็บมาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันกับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันผู้ขับขี่ผ่านแอพลิเคชั่นดังกล่าว (แกร็บไบค์) ยังถือว่าเป็นการให้บริการที่ผิดกฏหมาย เพราะกรมการขนส่งทางบกกำหนดว่าผู้ใดที่นำรถมาวิ่งรับ-ส่ง ผู้โดยสารต้องเป็นรถที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องเป็นป้ายสาธารณะ แต่ขณะนี้บริษัทแกร็บทำผิดทุกอย่าง จึงอยากให้แกร็บทำตามกฎหมายให้ถูกต้อง และไม่ต้องวิ่งรับผู้โดยสารข้ามเขตกันจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง รวมถึงพัฒนาแอพลิเคชั่นสำหรับวินจักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้ใช้บริการได้เลือก

บุกโวยเขตคลองเตยยึดเสื้อวินคนกระทืบแกร็บ

ด้านนายสันติ ปฏิภาณรัตน์ เลขานายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่เห็นสมควรให้ถอดถอนเสื้อวินของผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน เพราะปัญหาที่ผ่านมาหลายๆ กรณีที่เป็นกรณีร้ายแรงกว่านี้ เช่น หัวหน้าวินยิงลูกน้องเสียชีวิต รวมถึงปัญหาการทะเลาะวิวาทลักษณะนี้ที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นมีมาตรการการลงโทษหรือถอดถอนเสื้อวินกับคนที่ทำผิด แต่ทำไมในกรณีนี้ถึงมียึดเสื้อวินถึง 3 ปี

ขณะที่กรุงเทพมหานครได้เชิญคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่าย พื้นที่เขตคลองเตย ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานเขตคลองเตย สถานีตำรวจคลองตัน และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพฯ ร่วมประชุมหารือการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาการลงโทษผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ตามมาตรการยึดเสื้อวินต่อไป (เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2563)