เรื่องร้อนๆของ “ตาอยู่” มูห์ยิดดิน ยัสซิน

28 ก.พ. 2563 | 22:52 น.

 

ยื้ออำนาจกันไปมา แล้วจู่ๆ ม้ามืดอย่าง นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นักการเมืองที่คร่ำหวอดแต่โลว์โปรไฟล์ ก็กลายเป็น “ตาอยู่” ที่โผล่มาคว้าพุงปลามันๆไปกิน พลันที่สำนักพระราชวังของมาเลเซียประกาศวานนี้ (29 ก.พ.) ว่า สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ อาห์หมัด ชาห์ กษัตริย์ของมาเลเซีย ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน วัย 72 ปี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง ซึ่งรวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงกิจการภายในประเทศ  ขึ้นรับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย โดยพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่พระราชวัง อิสตานา เนการา กำลังจะมีขึ้นในวันนี้ (1 มี.ค. 2563) เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก็เป็นอันว่าศึกการช่วงชิงอำนาจในการบริหารประเทศเป็นอันจบลงชั่วคราว  

มูห์ยิดดิน ยัสซิน นักการเมืองผู้คร่ำหวอด แต่โลว์โปรไฟล์

 

จู่ๆ"ม้ามืด"ก็เข้าวิน 

นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดและนายกรัฐมนตรีรักษาการ หมดหวังในการกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง แม้เขาจะยืนยันว่าสามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่นายอันวาร์ อิบราฮิม ที่ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ หันกลับมาปรองดองกับมหาธีร์อีกครั้งหวังฟอร์มรัฐบาลและกลับเข้าสู่เส้นทางของการรับไม้ต่อเพื่อรอรับตำแหน่งนายกฯคนถัดไป ก็ต้องฝันสลายซ้ำซากอีกครั้ง  กษัตริย์มาเลเซียให้เหตุผลว่า กระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนนายมหาธีร์ที่ลาออกเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา (และพระองค์ทรงขอให้เขาเป็นนายกฯรักษาการจนกว่าจะได้นายกฯคนใหม่) นั้น ไม่ควรที่จะล่าช้าไปกว่านี้ ทรงเห็นว่านี่คือการตัดสินพระทัย “ที่ดีที่สุดเพื่อทุกฝ่าย”

 

เรื่องนี้มีขึ้นหลังจากที่พระองค์ทรงเรียกแกนนำคนสำคัญของพรรคการเมืองทั้งพรรคใหญ่-พรรคเล็กในสภามาหารือร่วมกัน ก่อนหน้านั้นพระองค์ยังทรงพบปะหารือกับนายมหาธีร์และนายอันวาร์แล้วด้วย แม้นายมหาธีร์ซึ่งมีอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการ จะเสนอให้มีการประชุมสภานัดพิเศษในวันจันทร์นี้ (2 มี.ค.) เพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยเขากล่าวว่าถ้ามีเสียงสนับสนุนข้างมาก เขาก็พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่การประชุมนัดพิเศษดังกล่าวก็ไม่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสมเด็จพระราชาธิบดีทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งนายมูห์ยิดดินแล้ว เท่ากับเป็นการปฏิเสธข้อเสนอของนายมหาธีร์


ยื้ออำนาจกันไปมาระหว่างอันวาร์ อิบราฮิม (ซ้าย) และมหาธีร์ โมฮัมหมัด (ขวา) แล้วก็อกหักทั้งคู่

 

จับตาการเมืองเปลี่ยนขั้วอีกครั้ง 

นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน คนนี้เป็นใครมาจากไหน เขาคือศิษย์เก่าพรรคอัมโน ซึ่งปัจจุบันเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ในอดีตคือพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในมาเลเซียมาเนิ่นนานกว่า 63 ปีกระทั่งมาพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับนายมหาธีร์และพรรคพันธมิตรในปี 2561

 

สมัยที่อยู่กับพรรคอัมโน มูห์ยิดดินเคยเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีในสมัยของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แต่หลังจากที่มีความขัดแย้งกับนายนาจิบในปี 2558 เมื่อเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับคดียักยอกเงินหลายพันล้านจากกองทุน 1 MDB ซึ่งเป็นเรื่องอื้อฉาวที่นายนาจิบพัวพัน มูห์ยิดดินก็ถูกปลดจากตำแหน่งรองนายกฯ และถูกขับออกจากพรรคอัมโน ปีถัดมาเขามาร่วมก่อตั้งพรรคเบอร์ซาตูซึ่งมีนายมหาธีร์เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมาเลเซียหลังชนะการเลือกตั้งในปี 2561  

มูห์ยิดดิน สมัยทำงานร่วมกับนายนาจิบ ราซัค ภายใต้พรรคอัมโน

เมื่อมหาธีร์ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2561 มูห์ยิดดินก็ได้รับมอบหมายให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในประเทศดูแลด้านความมั่นคงภายใน (หรือที่เราเรียกกระทรวงมหาดไทย) เขาเป็นคนทำงานแบบพูดน้อยต่อยหนัก ไม่ชอบทำตัวเด่นดัง โชคร้ายในปีเดียวกันนั้น เขาได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับอ่อนระยะแรก จึงต้องขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อรักษาตัว

 

หลังจากที่มหาธีร์ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างปุบปับและยื่นลาออกจากการเป็นผู้นำพรรคเบอร์ซาตูเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มูห์ยิดดินก็เริ่มรัศมีจับเรืองรอง เขาขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคและได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่เพียงแรงหนุนจากคนในพรรคและกลุ่มพันธมิตรที่เป็นแนวร่วมเท่านั้น เพราะแม้แต่พรรคอัมโน สังกัดเก่าของมูห์ยิดดินซึ่งอำนาจของนายนาจิบ ราซัค แผ่วลงไปมาก ก็ยังหันมาให้การสนับสนุนมูห์ยิดดิน เช่นเดียวกับพรรคอิสลาม หรือ PAS ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ก็ยังแสดงความยินดีกับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายมูห์ยิดดินเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 ของมาเลเซีย

 

ผู้ประท้วงถือป้าย ไม่เอานายมูห์ยิดดินเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ยังไม่ทันไรก็ถูกประท้วงแล้ว 

“ผมหวังว่าชาวมาเลเซียทุกคนจะยอมรับการตัดสินพระทัยของสมเด็จพระราชาธิบดีฯ” มูห์ยิดดิน ยัสซิน กล่าววานนี้ (29 ก.พ.) หลังได้รับข่าวโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง  การที่พรรคใหญ่ฝ่ายค้านอย่างอัมโนและ PAS หันมาให้การสนับสนุนเขา ส่งสัญญาณว่าอาจเกิดการเปลี่ยนขั้วอีกครั้งเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่จะมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่กระนั้นก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะคลื่นใต้น้ำได้ก่อตัวขึ้นแล้ว นายมหาธีร์ได้ออกมายืนยันเมื่อวันเสาร์ (29 ก.พ.) ว่า เขาจะยื่นถวายจดหมายชี้แจงต่อสมเด็จพระราชาธิบดีว่า เขาสามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ถึง 114 เสียง (จากทั้งหมด 222 เสียง) ขณะเดียวกันสมาชิกรัฐสภาฝ่ายสนับสนุนนายมหาธีร์ก็มีแผนออกมาประท้วงก่อนที่นายมูห์ยิดดินจะเข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

 

สื่อท้องถิ่นของมาเลเซียรายงานว่า ค่ำวานนี้ได้มีประชาชนราว 200 คนมารวมตัวกันใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายมูห์ยิดดินและแนวโน้มที่ว่าพรรคอัมโนจะได้กลับมาเป็นรัฐบาล เนื่องจากนายมูห์ยิดดินเคยแสดงจุดยืนว่า เขาพร้อมและไม่มีปัญหาที่จะทำงานร่วมกับพรรคอัมโน

 

ผู้ประท้วงคนหนึ่งให้ความเห็นว่า เขาออกมาชุมนุมแม้จะรู้ว่ามันผิดกฎหมาย เพราะอยากจะแสดงพลังให้เห็นว่า เขาและประชาชนคนอื่นๆไม่พอใจ หากจะต้องกลับไปมีรัฐบาลแบบเก่าๆที่มีพรรคอัมโนซึ่งถูกรุมเร้าด้วยเรื่องอื้อฉาวและการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นแกนนำจัดตั้ง