‘หมอเสริฐ’ กินรวบ ธุรกิจโรงพยาบาลไทย

28 ก.พ. 2563 | 11:40 น.

คอลัมน์ทางออกนอกตำรา ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3553 ระหว่างวันที่ 1-4 มี.ค.2563 โดย... บากบั่น บุญเลิศ

 

          กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ไปไหนก็มีการพูดถึงกรณีบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ของ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ได้ประกาศซื้อหุ้นทั้งหมดของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) จากผู้ถือหุ้นเดิม ด้วยเงิน 8.56 หมื่นล้าน - 1.02 แสนล้านบาท

          เมื่อ BDMS ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2563 มีมติอนุมัติให้การเข้าทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขในหลักทรัพย์ทั้งหมดของ BH เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการลงทุนของบริษัท ซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจด้านการแพทย์ โดยจะทำคำเสนอซื้อหุ้นในราคาหุ้นละ 125 บาท

          และเปิดทางไว้ว่า ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์อาจถูกปรับขึ้นได้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 20 ของราคาเสนอซื้อคิดเป็นมูลค่าธุรกรรมราว 85,612-102,735  ล้านบาท

          คำขอเสนอซื้อหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 546,328,351 หุ้น คิดเป็น 74.83%

          หุ้นบุริมสิทธิ 1,210,865 หุ้น คิดเป็น 0.17%

          หุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมด ประกอบด้วยชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 ซึ่งสามารถแปลงสิทธิเป็นหุ้นสามัญของ BH ราว 137,362,636 หุ้น

 

          ทาง BDMS ให้เหตุผลว่า สาเหตุของการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท ที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจด้านการแพทย์ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับโลกและมีค่ารักษาพยาบาลไม่สูงเมื่อเทียบคุณภาพการให้บริการ ซึ่งจะทําให้สามารถดึงดูดคนไข้จากทั่วโลก

          อีกทั้งการขยายตัวของความต้องการบริการรักษาพยาบาลในประเทศและภูมิภาค เนื่องจากประเทศไทยและภูมิภาคกําลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวของประชากร ประกอบการให้ความสําคัญกับการรักษาสุขภาพเพื่ออายุที่ยืนยาวและการเติบโตของธุรกิจประกันสุขภาพ

          ปัญหาที่ตามมาคือหลังจากนี้ไป ธุรกิจการรักษาพยาบาลและธุรกิจสุขภาพของประเทศไทยจะไปทางไหน!

          “กินรวบรายเดียว-มีอำนาจเหนือตลาดหรือไม่” นี่คือประเด็นใหญ่ที่คนไทยต้องมาพิจารณาหาทางออกด้วยกัน

          ทำไมผมถึงตั้งประเด็นเช่นนั้น....มาดูนี่

          BDMS นั้นมีมหาเศรษฐีของเมืองไทย นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และติดอันดับ 791 ของมหาเศรษฐีโลก ด้วยการถือครองทรัพย์สินราว 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆของประเทศราว 43-45 แห่ง และอีก 2 แห่งในกัมพูชาคือ Royal Angkor Pisith และ Royal Phnom Penh

          โรงพยาบาลในเครือข่าย BDMS อยู่ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลกรุงเทพ 19 แห่ง ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ที่หัวหิน นครปฐมที่สนามจันทร์ เพชรบุรี พัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด เชียงใหม่ นครราชสีมา อุดรธานี พิษณุโลก ขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สมุย สุราษฎร์ธานี

          นอกจากนี้ยังถือหุ้นใหญ่ในโรงพยาบาลอื่นๆ เช่น สมิติเวช สุขุมวิท, สมิติเวช ศรีนครินทร์, สมิติเวช ศรีราชา, สมิติเวช ธนบุรี, สมิติเวช ชลบุรี, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

          BDMS ยังถือหุ้นข้างมาก ในโรงพยาบาลพญาไท 1, 2 และ 3 โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 โรงพยาบาลเปาโลรังสิต โรงพยาบาลเปาโลเกษตรโรงพยาบาลเปาโลพระประแดง

          ยังไม่หมดครับ กลุ่มนี้ยังถือหุ้นในโรงพยาบาลเทพากร โรงพยาบาลสิริโรจน์ (ภูเก็ต) โรงพยาบาลศรีระยอง โรงพยาบาลดีบุก (ภูเก็ต) โรงพยาบาลรามคำแหง และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

          BDMS ที่มีสินทรัพย์รวมกันราว 1.3 แสนล้านบาท มีธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการบิน และอื่นๆ

          แค่นี้ก็น่าจะครอบคลุมตลาดใกล้เคียง 50% ของธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในเมืองไทยเข้าไปแล้ว

          ปัจจุบันทาง BDMS ถือหุ้นสามัญ BH อยู่แล้ว 182,513,600 หุ้น คิดเป็น 24.99% ที่เหลือเป็น บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 14.65%, UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED-Client Account 8.44%, บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 8.33% , บริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด 3.59%, สำนักงานประกันสังคม 3.36% , SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 1.92% , GIC PRIVATE LIMITED 1.74% ฯลฯ

          การดำเนินการตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นทั้งหมดรอบนี้ จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา และเป็นการหักหน้า “ชัย โสภณพนิช” เจ้าของตัวจริงเสียงจริงของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เพราะไม่มีการบอกกล่าว

          วันที่ 27 ก.พ. 2563 นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้แจงเกี่ยวกับการเข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจในหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ไม่ได้มีการแจ้งกับบริษัทก่อน

          เธอบอกว่า ผู้บริหารของ BH ไม่คาดคิดและไม่เคยทราบเรื่องการทำคำเสนอซื้อโดยสมัครใจมาก่อนเนื่องจากในอดีต BH และ BDMS ต่างดำเนินธุรกิจอย่างอิสระต่อกันและปราศจากการประสานความร่วมมือทางธุรกิจใดๆ 

          นอกจากนี้ บริษัทเห็นว่าทั้งสองกลุ่มโรงพยาบาลดำเนินธุรกิจที่แข่งขันกันและต่างก็เป็นผู้นำในธุรกิจด้านการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) และการบริการทางการแพทย์ตติยภูมิให้กับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับสูง

          ดังนั้น บริษัทจะขอเข้าเรียนปรึกษาและให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า  เพื่อชี้แจงถึงสภาพการแข่งขันในธุรกิจด้านการแพทย์ในปัจจุบัน และขอความชัดเจนในเชิงนโยบายเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทโดยกลุ่ม BDMS

          จึงขอให้ผู้ถือหุ้นติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าทำรายการจากทั้ง BH และ BDMS อย่างใกลัชิดและระมัดระวัง และจะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อ และนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นในช่องทางที่เหมาะสมต่อไป

          สะท้อนว่า ปฏิบัติการกินรวบรอบนี้ มีขวากหนาม 2 ดอก

          ดอกแรก ผู้ถือหุ้นเดิมของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ไม่ยอม ดอกสอง คือคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าจะว่าอย่างไร

          อันนี้ในทางกฎหมาย และแนวทางการต่อสู้ที่ชวนติดตาม