“วรงค์”ซัด “ภรรยาปิยบุตร” ปลุกระดม น.ศ.เลียนแบบม็อบฮ่องกง

28 ก.พ. 2563 | 05:45 น.

“หมอวรงค์”กล่าวหา “ภรรยาปิยบุตร” ร่วมปลุกระดมนศ. คาดมีบันได5ขั้น เลียนแบบ “ฮ่องกงโมเดล” ยอมรับกังวลต่อความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ”  แต่ยังเชื่อเยาวชนไทยมีเหตุมีผล

 


วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563ร้านกาแฟแซนดี้ คอฟฟี่ พญาไท นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวผ่านเวที Next รปช. ครั้งที่ 3 หัวข้อกฎหมู่ หรือกฎหมาย และ แผน5 ขั้นตองฮ่องกงโมเดล ตอนหนึ่งว่าสถานการณ์การเมืองมีบางฝ่ายอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย และกล่าวหาอีกฝั่งว่าเป็นเผด็จการ ทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และผู้ชนะเลือกตั้งต้องจัดตั้งรัฐบาล แต่ที่ผ่านมาฝั่งที่อ้างประชาธิปไตย กล่าวหาคนที่ชนะเลือกตั้งว่าเป็นเผด็จการ ทั้งนี้มีผู้ส่งข้อความมายังตกถึงกลุ่มที่อ้างตัวเองว่าเป็นกลุ่มประชาธิปไตย ว่า ประชาธิปตก หรือ ประชาธิปไตย รวมกับ โกหก หมายถึงกลุ่มที่โกหก บิดเบือน ใช้กระบวนการต่อสู้ทางข่าวสาร หรือ ไอโอ ใส่ร้าย ทั้งที่ความหมายของประชาธิปไตยที่แท้จริงคือ สิทธิ เสรีภาพ ประชาชน

นพ.วรงค์ กล่าวถึงประเด็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ด้วยเหตุที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พรรคกู้ยืมเงิน ว่า อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ พยามยามบิดเบือน ต่อสู้เพื่อปลุกระดม มวลชน นำไปสู่สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การต่อสู้ในข้อกฎหมาย ทั้งนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่ามีผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งหมายถึงว่ามีการชี้นำให้ยุบพรรค และกล่าวหา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลั่นแกล้ง ทั้งนี้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีบทบัญญัติถึงช่องทางการได้มาของเงินที่พรรคการเมืองใช้ในกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งกรณีที่นายธนาธรให้อดีตพรรคอนาคตใหม่กู้เงินถือว่าผิดกฎหมาย

“วรงค์”ซัด “ภรรยาปิยบุตร”  ปลุกระดม น.ศ.เลียนแบบม็อบฮ่องกง

“คนพวกนี้ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด และบิดเบือน ไม่เคารพคำตัดสินนของศาล ผมขอเรียกว่าคนชังชาติ และนำไปสู่การปลุกระดมนักศึกษา และคนกลุ่มพวกนี้ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่วันนี้ปล่อยให้เขากระทำไปก่อน แต่เชื่อว่าต่อจากนี้สังคมจะตื่นตัว และไม่ยอมให้นักการเมืองหัวฝรั่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ ส่วนวิธีการที่เขาจะใช้คือ ฮ่องกงโมเดล” นพ.วรงค์ กล่าว

 

สำหรับแผนฮ่องกงโมเดล 5 ขั้นตอนคือ 1.ปลุกระดม ล้างสมอง เยาวชน 2.ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลกรณียุบพรรค 3. กระตุ้นกระแสแฟลซม็อบ และขยายพื้นที่ลงถนน ชุมนุมใหญ่ 4.สร้างความรุนแรงในการชุมนุมใหญ่ เพื่อป้ายสีรัฐบาลเพราะต้องการให้เห็นว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายกระทำ และ 5.เรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงประเทศ และเมื่อถึงขั้นตอนสุดท้าย เชื่อว่าประเทศจะเกิดกลียุค โดยสถานการณ์ประเทศขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 3

“ผมเชื่อว่าเยาวชนจะรับฟังความจริง และตัดสินใจได้ โดยรัฐบาลไม่ควรนำตำรวจ หรือ ทหารเข้าไปวุ่นวายในการชุมนุม และควรใช้ความจริงต่อสู้ ผมยังเชื่อว่าเยาวชนมีเหตุมีผล แต่ปัจจุบันประเทศไทยถูกแทรกแซงโดยองค์กรที่ลงท้ายว่าประชาธิปไตยและมีคนต่างชาติเข้าแทรกแซงโดยเฉพาะภรรยาของอาจารย์ปิยบุตร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าว

 

 

นพ.วรงค์ กล่าวด้วยว่า กังวลต่อความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เชื่อว่ารอดูท่าทีทางการเมือง ซึ่งมีผู้วิเคราะห์ให้ตนฟังว่านายทักษิณรอดูท่าทีของกลุ่มกลุ่มฮ่องเต้ซินโดรม ที่มีความเป็นตัวของตนเองสูง หากได้รับประโยชน์จะเข้าร่วมสนับสนุน เป็น 3 ประสาน คือ คนแดนไกล กลุ่มฮ่องเต้ซินโดรมและ องค์กรนอกชาติ ภายใต้หน้ากากประชาธิปไตย ซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรง และสงครามกลางเมือง เหมือนเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ปี 2553 ที่มีชายชุดดำและการเสียชีวิตของประชาชน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในประเทศคือการชิงอำนาจ เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ไม่ใช่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ