ซาอุฯ สกัดไวรัส ห้ามต่างชาติเยือนนครเมกกะ

27 ก.พ. 2563 | 11:20 น.

 

ซาอุดิอาระเบียเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ล่าสุด (27 ก.พ.) กระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียได้ออกแถลงการณ์ สั่งระงับการเดินทางของชาวต่างชาติสู่มหานครเมกกะ (Mecca) ซึ่งเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม และเป็นที่ตั้งของ “กะอ์บะฮ์” (Kaaba) อาคารทรงสี่เหลี่ยมที่อยู่ตรงกลางมัสยิดอัล-ฮะรอม สถานที่ประกอบพิธีปฏิบัติศาสนกิจที่สำคัญ การตัดสินใจของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีตัวเลขยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการมากกว่า 220 คนแล้ว

ซาอุฯ สกัดไวรัส ห้ามต่างชาติเยือนนครเมกกะ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้มีคำสั่งระงับการออกวีซ่าเข้าประเทศให้กับชาวต่างชาติที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว “ซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนทุกๆมาตรการระหว่างประเทศที่มุ่งควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดใหม่นี้ และขอเรียกร้องให้พลเมืองชาวซาอุดิอาระเบียเพิ่มความระมัดระวังก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรค” แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียระบุ ทั้งนี้ ยังไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในซาอุดิอาระเบีย แต่รัฐบาลก็ได้ออกมาตรการออกมาจำนวนหนึ่งในเชิงป้องกันและเฝ้าระวังไว้ก่อน  

 

ซาอุฯ สกัดไวรัส ห้ามต่างชาติเยือนนครเมกกะ

ขณะที่ประเทศในตะวันออกกลางที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดคือ อิหร่าน โดยเป็นที่สังเกตว่า จุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดมาจากเมืองกอม (Qom) ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 50 ราย เมืองกอมเป็นมหานครศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางใต้ราว 140 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคารานที่ผู้ศรัทธามักจะแสดงความเคารพด้วยการเอื้อมมือสัมผัสหรือจุมพิตสุเหร่า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้ง่าย  

 

ในอดีตมักจะมีการแพร่กระจายของโรคระบาดในช่วงที่มีการประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งเป็นศาสนพิธีที่สำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก เนื่องจากมีการชุมนุมกันของชาวมุสลิมที่มาแสวงบุญจากประเทศต่างๆจำนวนนับล้านคน ยกตัวอย่างการแพร่ระบาดของโรคท้องร่วงรุนแรงในปีพ.ศ. 2364 ทำให้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตที่นครเมกกะ 20,000 คน จากนั้นในปี 2408 ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย มีการแพร่ระบาดของโรคอหิวาฯคร่าชีวิตของผู้แสวงบุญอีก 15,000 คนและในครั้งนั้นมีการแพร่ระบาดออกไปยังประเทศอื่นๆอีกด้วย

 

ล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียถูกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2012 หรือกลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (Middle East Respiratory Syndrome: MERS) ที่รู้จักกันในนาม “โรคเมอร์ส” คุกคาม ทำให้มีการเพิ่มมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในช่วงที่มีพิธีฮัจย์ในปี 2555 และ 2556  

 

สำหรับปีนี้พิธีฮัจย์จะมีขึ้นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แต่ในช่วงอื่นๆของปีนอกจากระยะเวลาดังกล่าว ชาวมุสลิมจากที่ต่างๆทั่วโลกก็นิยมเดินทางมาแสวงบุญที่ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ในซาอุดิอาระเบีย โดยเป็นการจาริกแสวงบุญที่เรียกว่าพิธีอุมเราะห์  

 

ซาอุฯ สกัดไวรัส ห้ามต่างชาติเยือนนครเมกกะ

ทางด้าน ศูนย์ข่าวฮัจย์ไทย กรมประชาสัมพันธ์ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า กระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้มีประกาศว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางการซาอุดิอาระเบีย ได้มีมาตรการดังต่อไปนี้ คือ

 

1.ระงับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียสำหรับผู้แสวงบุญที่จะเข้ามาประกอบพิธีอุมเราะห์

2.ระงับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียด้วยวีซ่าท่องเที่ยว สำหรับประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

 

3.ระงับประชาชนสัญชาติซาอุดิอาระเบีย และสัญชาติในกลุ่มประเทศคาบสมุทรอาหรับ ในการนำผู้คนจากประเทศในกลุ่มเสี่ยงเข้ามาในราชอาณาจักร

 

ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยที่จะเดินทางไปอุมเราะห์ช่วงนี้โปรดติดตามข่าวสารความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง