นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดรับสร้างบ้านในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 สมาคมฯ เตรียมจัดงาน รับสร้างบ้าน Focus 2020 ระหว่างวันที่ 12-15 มีนาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพค ฮอลล์ 7 เมืองทองธานี ภายในงานจะเป็นการแสดงงานของ บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำที่เป็นสมาชิกสมาคม จำนวนกว่า 30 บริษัท ซึ่งคาดว่าในปีนี้แต่ละบริษัทจะเตรียมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงต้นปีกันอย่างคึกคักแน่นอน หลังจากที่ในช่วงไตรมาสที่ 3 - 4 ตลาดรับสร้างบ้านเริ่มมีกำลังซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าในช่วงต้นปียังคงมีกำลังซื้อที่รอการตัดสินใจอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะมีข่าวที่กระทบต่อกำลังซื้อเข้ามามากก็ตาม
“ตลาดรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเหมือนภาคธุรกิจอื่น ๆ เช่นกัน แต่กำลังซื้อในตลาดนี้ โดยเฉพาะบ้านตลาดกลางและบน ได้รับผลกระทบไม่มากนัก กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้มีเงินออมสูง จึงทำไห้ตลาดโดยรวมยังคงพอจะขยายตัวได้ การจัดงานในครั้งนี้เชื่อว่ายังมีผู้บริโภคที่มีความสนใจจะเข้ามาชมงานเป็นจำนวนมากเช่นเคย”
สำหรับงานรับสร้างบ้าน Focus ในปีนี้ Theme Concept “พบมืออาชีพของการสร้างบ้าน” โดย ไฮไลท์หลักของงานคงเป็นเรื่องของ แบบบ้าน ที่แต่ละบริษัท มีการออกแบบใหม่ และคัดสรรแบบบ้านสวย ๆ หลากสไตล์ตามความต้องการของผู้บริโภค มากกว่า 1,000 แบบ มาจัดแสดง พร้อมด้วยบริการระดับมืออาชีพที่จะให้บริการตั้งแต่การออกแบบบ้าน การก่อสร้างที่ได้มาตรฐานที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า สร้างบ้านแล้วต้องได้บ้าน พร้อมการรับประกันและให้บริการหลังการขายซึ่งถือเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค ที่จะได้พบกับกับบริษัทรับสร้างบ้านระดับคุณภาพพร้อมกันภายในงานเดียว
นอกจากแบบบ้านที่มีให้เลือกจำนวนมากแล้ว ภายในงานยังมีบ้านระดับราคาต่างๆให้เลือกตั้งแต่ 1-100 ล้านบาท พร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษของแต่ละบริษัท นอกจากนี้ผู้ที่จองปลูกสร้างบ้านภายในงานยังมีโอกาสลุ้นรับทองคำมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาทอีกด้วย โดยงานรับสร้างบ้าน Focus 2020 ในปีนี้ สมาคมฯ ตั้งเป้ายอดขายภายในงานไว้ที่ 1,200 ล้านบาทและคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า10,000 คน ถึงแม้ว่าในช่วงนี้เศรษฐกิจโดยภาพรวมอาจจะถือว่าไม่ดีนัก แต่ทางสมาคมฯ ยังคาดว่ากำลังซื้อในตลาดรับสร้างบ้านคงไม่ลดลงมากนัก และคาดว่าเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าตลาดรวมในปีนี้น่าจะยังคงเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่12,000- 12,300 ล้านบาท