รฟท.เร่งสอบสวน เหตุรถไฟชนกัน

25 ก.พ. 2563 | 11:22 น.

ร.ฟ.ท.เตรียมส่งคณะกรรมการตรวจสอบ หวังสอบสวนข้อเท็จจริง หลังเกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟขนส่งสินค้าชนกัน  เร่งเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง 

 

 

 

 

 

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ เปิดเผยถึงกรณีอุบัติเหตุรถไฟขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 722 (หาดใหญ่ - บางซื่อ) ชนกับขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 37 (กรุงเทพ สุไหงโก-ลก) บริเวณสถานีปากท่อ จังหวัดราชบุรี เมื่อวานนี้ (24 ก.พ. 2563) ว่า ได้รับแจ้งจากผังควบคุมการเดินรถหัวหินเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ว่า เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนกัน ขณะที่ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 (กรุงเทพ - สุไหง โก-ลก) เข้าจอดรอทางอยู่บริเวณทางหลีกที่ 2 เพื่อรอหลีกขบวนรถสินค้าเปล่า (คอนเทนเนอร์) ขบวนที่ 722 (ชุมทางหาดใหญ่ - บางซื่อ) ที่จะต้องวิ่งผ่านสถานีปากท่อ แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ขบวนรถสินค้าที่ 722 ได้วิ่งเข้าไปชนกับขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 ที่จอดอยู่ในทางหลีก ทำให้ขบวนรถ 722 หัวรถจักรดีเซล 4210 ตกราง และรถพ่วงบรรทุกตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ติดกับรถจักรจำนวน 5 คัน ตกรางทุกเพลาทุกล้อ สำหรับขบวนรถที่ 37 ตู้รถชั้น 3 ติดกับหัวรถจักรได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน 

 

ร.ฟ.ท. ได้จัดส่งคณะกรรมการเหตุอันตรายกลางตรวจสอบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นสันนิฐานว่าว่าน่าจะเกิดจากการสับประแจผิดพลาด แต่จะต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดต่อไป โดยขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 722 เป็นตู้คอนเทนเนอร์เปล่า มีรถพ่วงในขบวน จำนวน 25 แคร่ ซึ่งเป็นของบริษัท ไทยเบฟ 12 แคร่ และบริษัท ทีพีไอ 13 แคร่ สำหรับค่าเสียหายก็จะเป็นไปตามมาตรฐานการรับประกันภัยของการขนส่งสินค้าทั่วไป

 

นายวรวุฒิ  กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวทาง   ร.ฟ.ท.ได้นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปากท่อ มีผู้บาดเจ็บรวม 40 คน (ผู้โดยสาร 36 คน และพนักงานการรถไฟฯ 4 คน) ในจำนวนนี้ นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลปากท่อ 4 คน และส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี 1 คน ที่เหลือ จำนวน 35 คน ทำการรักษาและกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว สำหรับความคืบหน้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จำนวน 5 คน สามารถกลับบ้านได้แล้ว จำนวน 3 คน เหลือที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปากท่อ 2 คน  ในขณะเดียวกันการดูแลเยียวยารักษาผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ดำเนินการ ดังนี้ 1.จัดกระเช้าของเยี่ยมวงเงินไม่เกิน 3,000 บาท/ราย  2. รับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยออกหนังสือรับรองให้กับทางโรงพยาบาลเพื่อเรียกเก็บเงินจากการรถไฟฯ 3. กรณีผู้บาดเจ็บต้องการไปรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่อื่น การรถไฟฯ รับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่อื่น การรถไฟฯ รับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง 4. กรณีผู้บาดเจ็บต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟ หรือพาหนะอื่น ส่วนค่าใช้จ่าย ทาง ร.ฟ.ท.จะดำเนินการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในกรณีกรณีทรัพย์สินเสียหาย จะมีคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาค่าเสียหาย

 

นอกจากนี้ ร.ฟ.ท. ได้จัดขบวนรถช่วยการโดยสารออกจากสถานีปากท่อกลับสถานีกรุงเทพ เมื่อเวลา 00.08 น. ที่ผ่านมา โดยมีผู้โดยสารเดินทางกลับทั้งสิ้น 90 คน (คนไทย 66 คนและต่างชาติ 24 คน) รวมทั้งจัดรถส่งผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยัง อ.หัวหิน และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 26 คน ซึ่งทางทหารในพื้นที่จัดรถบัส 40 ที่นั่งรับส่ง ออกเดินทาง เวลา 24.00 น ซึ่ง ร.ฟ.ท. ได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี  นายอำเภอปากท่อ หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานทหาร สถานีตำรวจภูธรปากท่อ จิตอาสา กู้ภัยและมูลนิธิ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันอำนวยความสะดวกกำกับดูแลเหตุการณ์  โดยจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และที่พักคอยที่สถานีตำรวจภูธรปากท่อ