PTTOR ทางออกในเวลาที่ ปตท.กำลังเฉา 

22 ก.พ. 2563 | 05:00 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3551 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 23-26 ก.พ.63  By…เจ๊เมาธ์

 

               >> เรื่องของไวรัส Covid-19 มีแต่ทางที่จะบานปลาย ตอนนี้คำพูดที่ว่า เอาอยู่หรือควบคุมได้ มันคงไม่สามารถที่จะมองแค่ในประเทศได้แล้วค่ะ อย่างกรณีล่าสุดที่เห็นผลในทางตรงที่สุดก็กรณีของ AOT เพราะทันทีที่มีการประกาศมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในสนามบินทั้ง 6 แห่ง รวมถึงการยกเว้นประกันขั้นตํ่าสำหรับสัญญาสัมปทาน มันก็ทำให้ราคาหุ้นของ AOT มีอันต้องรูดลง ติดลบลงไปตํ่าสุดถึง 8% ขนาดนั้นเลยค่ะ

               >> ในขณะเดียวกันสารพัดโบรกเกอร์ ก็พากันออกมาซํ้าเดิม AOT ด้วยการปรับลดราคาเป้าหมาย โดยให้เหตุผลว่า การเยียวยาและการยกเว้นประกันขั้นตํ่าสำหรับสัญญาสัมปทาน อาจจะทำให้กำไรของ AOT หายไป 20-30% เลยทีเดียว แต่ในมุมมองของเจ๊เมาธ์ เจ๊กลับมองในมุมที่ต่างออกไป เฉียดๆ ว่า เจ๊กำลังเห็นว่ามุมมองภาพรวมของสารพัดนักวิเคราะห์พวกนี้ ดูเหมือนจะไร้เดียงสา...นั่งหอคอยงาช้างเอาด้วยนะคะ

               >> เจ๊เมาธ์ว่า เรามาลองนึกถึงในเรื่องของปันผล แค่ปีละบาทกว่าๆ กับการที่กำไรหายไปสัก 30-50% แล้วเหลือปันผลสัก 0.20-0.30 บาท ดูสิค่ะ เจ๊บอกเลยว่า หุ้นผูกขาด (Monopoly) ประเภทที่ไม่มีคู่แข่งเลยอย่าง AOT ตัวนี้...ต่อให้ปีนี้ทั้งปีไม่ดี ปีหน้าหรือปีต่อไป ก็ต้องฟื้นกลับมาอยู่ดี ในขณะเดียวกันเราลองมองราคาหุ้นที่ลดลงไป 3-4 บาทแบบนี้ เราก็จะเห็นว่าราคาหุ้นของAOT ตอนนี้น่าสนใจเอามากๆ นะคะ เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์ฟันธง ว่า AOT นาทีนี้น่าสนที่สุดแล้วค่ะ ยิ่งลงตํ่าไปอีกก็ยิ่งน่าสน เจ๊เมาธ์บอกเลยว่าต้องมีให้ได้ค่ะ

 

               >> ไปต่อกันที่ CRC หุ้นที่มีแต่ขนาดและความใหญ่ แต่สำหรับเจ๊...บอกได้เลยว่า ขาดทั้งความเร้าใจและความมันนะคะ ตรงๆ เลยว่า ใหญ่อ้วนอุ้ยอ้ายแบบนี้เป็นอุปสรรคต่อการปั่น...ทั้งปั่นและปั้นก็ยังขึ้นยากเอาซะด้วยนะคะ เอ่อ...คือเจ๊หมายถึงว่า CRC ปั้นราคาขึ้นยาก เพราะมีหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด (Turnover ratio) มีจำนวนมากนะคะ เพราะฉะนั้นขอแค่ให้ CRC สามารถรักษาสภาพไม่ให้ราคาหุ้นตํ่ากว่าราคาจองในช่วงที่ติดเครื่องหมาย ST หรือยังมี Greenshoe นี่ ก็เก่งมากแล้วค่ะ หรือถ้าหากว่าโชคดี เจ๊เมาธ์คิดว่า CRC ก็อาจจะเดินตามรอยหุ้นรุ่นพี่อย่าง AWC ก็เป็นไปได้น้า...ประมาณว่าหุ้นมี Greenshoe ที่ไล่ราคาให้ทำกำไรในระหว่างที่ได้ใช้สิทธิรองเท้าเขียวยังไงล่ะคะ ส่วนหลังจากนั้นแล้วแต่ดวงล่ะคะ เรื่องนี้เจ๊จะไม่ยุงค้า

               >> ส่วนทางฟากของลูกพี่ใหญ่ PTT กำไรลดลงไปตั้งเยอะแบบนี้ ก็มีแต่ต้องทำใจเท่านั้นล่ะค่ะ กำไรลดลงมันก็อยู่แต่ในเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ทั้งนั้น...แล้วรายได้พวกนี้ดันเป็นส่วนที่เป็นรายได้หลักของ PTT ทั้งนั้น และถ้าสถานการณ์ยังเดินหน้าไปแบบนี้ราคาหุ้นของ PTT ทรงกับทรุดเท่านั้นค่ะ

               >> เอาแบบนี้ดีหรือเปล่าค่ะ คุณชาญศิลป์ ตรีนุชกร เจ้าขา...เจ๊เมาธ์คิดว่าทาง PTT ลองออกมาให้ความชัดเจนเรื่องที่จะเอา PTTOR เข้าตลาดดูบ้าง ดีหรือเปล่าค่ะ ประมาณว่า PTTOR จะเข้าตลาดเมื่อไหร่ ถ้าถือหุ้น PTT แล้วจะได้สิทธิในการซื้อ IPO ของ PTTOR ในอัตราส่วนเท่าไหร่ อะไรพวกนี้ล่ะค้า

               >> เพราะถ้าจะให้เจ๊พูดตรงๆ ก็คือ โครงสร้างทางธุรกิจของ PTT มันซํ้าซ้อนและวุ่นวาย และยิ่งถ้าใช้ธุรกิจนำการตลาดไม่ได้ ก็ต้องใช้การตลาดนำธุรกิจไปเป็นบางครั้งก็ดีนะคะ แล้วเจ๊เมาธ์ อยากบอกตรงๆ เลยว่า ตอนนี้กระแสของนักลงทุนที่รอซื้อหุ้น PTTOR มันมีมาก...มากกว่า PTT ซะอีกค่ะ ประมาณว่าคนเค้าอยากลองของใหม่ อยากได้ปั๊มนํ้ามัน อยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟ มากกว่าเป็นเจ้าของมหาอาณาจักร ที่นับไม่ถูกว่ามีอะไรบ้างก็เท่านั้นล่ะค้า

 

               >> มาทางหุ้นกลุ่มธนาคารกันบ้าง แหม...ตอนนี้เห็นว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่หลายตัวกำลังตกตํ่า แต่สำหรับเจ๊เมาธ์หุ้นกลุ่มธนาคารยังเป็นหนุ่มหล่อรูปงามอยู่เหมือนเดิมล่ะค้า ยิ่งถ้าหากนักลงทุนคิดว่าการใช้ค่า P/E เป็นหนึ่งในการพิจารณาความเหมาะสมของปัจจัยพื้นฐาน บอกได้เลยว่าตอนนี้ BBL มีค่า P/E เท่ากับ 7.44 เท่า ปันผล = 6.5 บาท/ปี, SCB มีค่า P/E เท่ากับ 8.22 เท่า ปันผล = 5.5 บาท/ปี ส่วน KBANK มีค่า P/E เท่ากับ 8.64 เท่า ปันผล = 4 บาท/ปี ซึ่งถ้าดูไปแล้วก็จะเข้าเกณฑ์ของการเป็นหุ้นดีมีปันผลทั้งนั้น ถ้าไม่เอาตอนนี้แล้วจะไปเอาตอนไหน เห็นของดีราคาถูกแล้วเจ๊ก็ไม่อยากให้เสียของนะคะ ถูกๆ ดีๆ แบบนี้...ของมันต้องมีค่ะคุณขา

               >> มาค่ะมา เจ๊เมาธ์จะเล่าให้หมด ถึงเรื่อง ไดเมท (DIMET)  ที่เกิดความขัดแย้งกันขึ้น ระหว่าง “เสี่ยขุน-ชนะชัย ลีนะบรรจง” กับ “เสี่ยหมู” ค่ายเหล็กใหญ่ของตระกูลดัง ที่ร่วมธุรกิจกันอยู่ดีๆ ในสตาร์ตอัพ รวมไปถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้วก็มาถือหุ้นไดหมด-ไดเมท ร่วมกัน ตอนนี้กำลังปีนเกลียวกันอยู่เจ้าค่ะ ก็เรื่องเพิ่มทุน ให้ “เพื่อนกึ้ง-ไฮโซคนดัง” ของเสี่ยหมู กับ คนสัญชาติจีน “ยู้ หว่า แซ่ลี”  ที่เจ๊เมาธ์ สืบสาวราวเรื่อง ไม่ได้ว่าเป็นใคร มาจากไหน ได้แต่เดาๆ ว่าน่าจะเป็น “ตัวแทน” หรือนอมินี ที่ “เสี่ยหมู” ส่งเข้ามากินสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่ม

               >> มันล่อแหลมนะเจ้าคะ จู่ๆ DIMET จะยกหุ้นพีพี จำนวน 261 ล้านหุ้น ราคา 0.315 บาท ถูกกว่าที่ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 0.50 บาท ...โถ ๆๆๆ พอ “เสี่ยขุน” ทักท้วง เท่านั้นแหละค่ะ กลับตัว เปลี่ยนราคาหุ้นแทบไม่ทัน ด่านสุดท้ายแล้วค่ะว่า “กรมพัฒน์” ที่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุน จะกล้าเสี่ยงจดทะเบียนเปลี่ยนทุนให้ในส่วนของ “กึ้ง ไฮโซดัง” กับ “ยู้ หว่า แซ่ลี” หรือไม่ สุ่มเสี่ยงเกิดความเสียหายนะค่ะ เจ๊เมาธ์แค่เป็นห่วง อยู่ห่างๆ เท่านั้นแหละคะ...ใครจะกินใคร เจ๊เมาธ์ไม่ยุ่ง บ๊าย บาย ค่ะ