วันนี้ ( 21 ก.พ.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี จากคดีที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาทแล้ว กกต.จะไปดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร ในความผิดบริจาค และพรรคอนาคตใหม่ในความผิดรับบริจาคเงินเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี
ซึ่งตามมตรา 124 พ.รป.ว่าด้วยพรรคการเมืองได้กำหนดไว้ว่า ผู้ใดบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้น 5 ปี
และมาตรา 125 กำหนดไว้ว่า พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น 5 ปี และให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดส่วนที่เกินมูลค่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 10 ล้านบาท ตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
ทั้งนี้เงินที่กู้มา 191 ล้านบาท ซึ่งศาลชี้ว่าผิดกฎหมายและต้องตกเข้าเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง หากพบไม่มีเงินเหลือต้องบังคับเอากับคณะกรรมการบริหารพรรค ในลักษณะแบบลูกหนี้ร่วมของกองทุนฯ และหัวหน้าพรรคต้องส่งบัญชีให้นายทะเบียน ภายใน 30 วัน เพื่อชำระบัญชีเนื่องจากพรรคถูกยุบ หากมีการ ฝ่าฝืนมีโทษปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ทั้งนี้ในการดำเนินคดีอาญาในความผิดดังกล่าว คณะกรรมการไต่สวนของกกต.ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนของการแจ้งข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม กกต.อาจจะมีการดำเนินคดีอาญาจากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่มีการนำเงินรายได้ของพรรคที่ได้จากการระดมทุน การรับบริจาค ขายของที่ระลึก ซึ่งกฎหมายกำหนดห้ามนำไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากการดำเนินงานของพรรคการเมืองตามมาตรา 87 ไปใช้หนี้เงินกู้ให้กับธนาธร โดยมาตรา 132 กำหนดโทษไว้หากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และเหรัญญิกพรรคผู้ใดนำเงินหรือยินยอมให้บุคคลนำเงิน ทรัพย์สินของพรรคไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่น หรือนำไปใช้เพื่อการอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 87 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10ปี ปรับ ตั้งแต่ 1แสน-2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามหาก กกต.มีการเอาผิดทางอาญากับพรรคอนาคตใหม่จะต้องต่อสู้กันในชั้นศาลถึง 3 ศาล