นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ว่าที่ ร.ต.สุจินต์ ศรีวิเชียร นายอำเภอทองผาภูมิ ร่วมเป็นประธานใน “พิธีเปิดและส่งมอบโครงการส่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาหมู่บ้านด้วยพลังงานธรรมชาติ” ให้แก่ชุมชนบ้านภูเตย ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งประสบปัญหาไม่สามารถนำน้ำจากโครงการชลประทานอ่างเก็บน้ำบ้านภูเตยมาใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากหมู่บ้านตั้งอยู่บนพื้นที่สูงกว่าอ่างเก็บน้ำถึง 20 เมตร และเดิมใช้ระบบปั๊มน้ำด้วยไฟฟ้าจากแหล่งน้ำซับ ขึ้นไปเก็บกักไว้ในถังพักน้ำบนที่สูงก่อนจะปล่อยน้ำเข้าหมู่บ้านเพื่อการใช้สอย ทำให้ชาวชุมชนต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าที่ตามมา อีกทั้งในช่วงหน้าฝนจะประสบปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยครั้งทำให้ไม่สามารถสูบน้ำมาใช้ได้
ปตท. โดย ส่วนปฏิบัติการระบบท่อเขต 8 จ.กาญจนบุรี ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของชุมชนบ้านภูเตย ซึ่งมีประชากรประมาณ 265 หลังคาเรือน และมีปริมาณความต้องการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคประมาณวันละ 125 ลูกบาศก์เมตร โดยได้ประยุกต์องค์ความรู้ทางด้านวิศวกรรมแก้ไขปัญหาด้วยการพัฒนา “เครื่องตะบันน้ำ” หรือ “ไฮดรอลิคแรมปั๊ม” (Hydraulic Ram Pump) อุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งน้ำจากที่ต่ำไปที่สูง โดยอาศัยพลังงานน้ำซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติทดแทนปั๊มน้ำไฟฟ้า โดย ปตท. ได้ติดตั้งไฮดรอลิคแรมปั๊ม จำนวน 3 ชุด มีความสามารถในการส่งน้ำได้ถึง 4 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือ 192-288 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของหมู่บ้านโดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าหรือน้ำมัน จึงช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของชุมชนเดือนละประมาณ 7,000-12,000 บาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 47,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี พร้อมติดตั้งระบบป้องกันแรงดันสะท้อนกลับของน้ำ (Liquid Surge) เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ และช่วยให้สามารถส่งน้ำขึ้นไปยังถังเก็บบนเนินเขาสูงถึง 60 เมตร จากแนวท่อส่งน้ำ โดยชุดอุปกรณ์นี้ถือเป็นต้นแบบซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชุมชนอื่นๆ ได้
“ปตท. ยึดมั่นในหน้าที่การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน การมุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนในพื้นที่ต่างๆ จึงเน้นการใช้พลังงานสะอาดจากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น ซึ่งโครงการส่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาหมู่บ้านด้วยพลังงานธรรมชาตินี้ ปตท. ได้พัฒนาขึ้นตามแนวคิด “พลังธรรมชาติ พลังงานสะอาดเพื่อชุมชน” ด้วยองค์ความรู้และความสามารถของบุคลากรในพื้นที่ และพร้อมที่จะถ่ายทอดให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการระบบน้ำประปาหมู่บ้านและดูแลอุปกรณ์ได้ด้วยตนเองต่อไป” นายปิติพันธ์ กล่าวในตอนท้าย