“BEM” ลั่นถอนฟ้องทุกคดี สัมปทานใหม่เริ่ม1มี.ค.

20 ก.พ. 2563 | 11:56 น.

กทพ. ร่วมมือกับ BEM เซ็นสัญญาสัมปทานยุติค่าโง่ ก่อนสัญญาฉบับเดิมสิ้นสุดลง 29 ก.พ.นี้ เร่ง BEM ถอนฟ้อง 17 คดี ให้เร็วที่สุด ด้าน BEM ยืนยันถอนฟังทันเวลา

 

 

 

 

 

  ยุติลงแล้วสำหรับปมข้อพิพาทค่าโง่ทางด่วน ระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด(มหาชน) หรือ BEM   ล่าสุด วันที่ 20กุมภาพพันธ์ ได้ลงนามขยายสัมปทาน ทางด่วนขั้นที่2 ออกไป 15ปี8เดือน    

 

“BEM” ลั่นถอนฟ้องทุกคดี สัมปทานใหม่เริ่ม1มี.ค.

 นางพเยาว์ มริตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด(มหาชน)หรือ  BEM   กล่าวว่า มั่นใจว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะถอนฟ้องทุกคดีภายใน 29ก.พ.นี้แน่นอน และสัญญาสัมปทานใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่1มี.ค นี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามหากมีปัญหาถอนฟ้องไม่ทันนั้นยังไม่ขอตอบตอนนี้ ซึ่งวันที่ 28 ก.พ.นี้ช่วงกลางคืนค่อยคุยกันอีกครั้ง

 

ด้านนายสุรงค์ บลูกุล ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.45 น. นายดำเกิง  ปานขำ รักษาการผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และนางพเยาว์ มริตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด(มหาชน)หรือ  BEM  ได้ลงนามในสัญญาขยายสัมปทานทางด่วน 2 ฉบับ ประกอบไปด้วย สัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ฉบับแก้ไข) และสัญญาโครงการทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด (ฉบับแก้ไข) โดยมีชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรา 43 นายสุรงค์ บลูกุล ประธานบอร์ดกทพ. และผู้บริหารจาก กทพ.และบีอีเอ็ม ร่วมเป็นสักขีพยาน  ซึ่งการลงนามสัญญาในครั้งนี้ เป็นการยุติข้อพิพาทและจะไม่มีการฟ้องกันอีกในอนาคต โดยจะดำเนินการถอนฟ้องข้อพิพาททั้งหมดที่มีอยู่ 17 คดี มูลค่ารวม 5.8 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29ก.พ.นี้  เพื่อให้สัญญามีผลบังคับใช้ต่อเนื่องจากสัญญาเดิมที่สิ้นสุดลง ซึ่งสัญญาใหม่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้กทพ.จะประสานงานกับสำนักงานอัยการสูงสุด โดยนำมติครม.และหนังสือลงนามในสัญญาขยายสัมปทานใหม่ไปดำเนินการถอนฟ้องโดยเร็วที่สุด

 

 “สาเหตุที่มีการเซ็นสัญญาฉบับใหม่เร็วนั้น เนื่องจากสัญญาสัมปทานฉบับเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 29 ก.พ.2563 หลังจากนั้นBEM ต้องเร่งถอนฟ้อง กทพ.ทั้งหมด 17 คดี ก่อนที่สัญญาฉบับใหม่ทั้ง 2 ฉบับ จะเริ่ม 1 มี.ค.นี้ ซึ่งมีระยะเวลาเพียง 8 วัน เท่านั้น หากถอนฟ้องไม่ทันก็จะมีการหารือกับคณะกรรมการฯ เช่น ทางกทพ.จะไม่จ่ายรายได้ค่าผ่านทางให้กับ BEM”

 

สำหรับข้อยุติพ้อพาทพาทครั้งนี้เป็นการแก้ไขข้อพิพาทที่เกิดขึ้นมากกว่า 25 ปี แค่บางข้อพิพาทที่ศาลตัดสินมาแล้วให้กทพ.จำเป็นต้องชดใช้ให้บีอีเอ็มเป็นเงิน 4,300 ล้านบาท ซึ่งเสียหายมากแล้ว หากกทพ.จะสู้คดีและยอมรับว่ามีโอกาสสูงที่จะแพ้คดีอาจต้องทำให้ประเทศชาติเสียหายเพิ่มขึ้นกว่า 3 แสนล้านบาท ในขณะเดียวกันอยากให้สังคมเข้าใจว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และและบอร์ดกทพ.ชุดนี้ไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหาแต่เป็นผู้มาแก้ไข และการเจราจรครั้งนี้เป็นการเจรจาอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด คณะกรรมการพีพีพี และตรวจสอบทุกขั้นตอน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใคร อย่างไรก็ตามการลงนามครั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ไม่ได้เข้าร่วม เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นกระบวนการระหว่างกทพ.กับ BEM เท่านั้น