กทพ. เปิด4เงื่อนไขกับ BEM เผย4.3พันล้านต้องได้คืนมา

18 ก.พ. 2563 | 11:25 น.

 

 

กทพ. เปิด4เงื่อนไขกับ BEM เผย4.3พันล้านต้องได้คืนมา

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมากทพ.ใช้ทรัพยากร ใช้เวลาสูงมากในการดำเนินการ ภาระที่ตกอยู่กับกทพ.ตลอด 30 ปีได้ ยุติและถูกแก้ไขทุกมิติของข้อพิพาททั้งหมด กทพ.ต้องดำเนินการติดตามโครงการอีกหลายโครงการที่ยังค้างอยู่ เรียนว่าแนวทางที่เราได้ดำเนินการตามมติครม.เมื่อ 2 ตุลาคม 2561 เพื่อยุติปัญหาทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

 

เรียนว่าอดีตที่เราเป็นหนี้ 4,300 ล้านบาท เขาจะต้องคืนเรามา เพราะจะเป็นการยุติหนี้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต  จะไม่มีการชดเชยโครงการอย่างที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ระบุว่าจะไม่มีการชดเชยเงิน แต่จะชดเชยเป็นเวลาแทน ส่วนเรื่องส่วนแบ่งของกทพ.กับ BEM ยังเหมือนเดิม รัฐไม่เสียประโยชน์จากรายได้ และ BEM จะต้องปรับปรุงเส้นทางให้มีคุณภาพ

 

ส่วนการเก็บค่าผ่านทางที่ในอดีตมีข้อพิจารณาที่ไม่สามารถได้ข้อยุติ ครั้งนี้จะมีการเก็บค่าผ่านทางคงที่ทุก 10 ปี  ดังนั้นจะขึ้นค่าบริการอีกครั้งในปี 2571 จำนวน 10 บาท และจะไม่มีการเก็บค่าผ่านทางในวันหยุดนักขัตฤกษ์ตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้

 

คิดว่าเป็นประเด็นที่สำคัญที่กทพ.จะดำเนินการต่อ ถ้าเราดำเนินการสู้คดีต่อเราต้องใช้เงินของเรานะครับ รัฐบาลคงอาจไม่ได้ช่วยสนับสนุนเรื่องเงินงบประมาณ เราก็จะไม่สามารถดำเนินโครงการใหม่ๆได้ แม้เราจะมีเงินจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์แต่เราไม่สามารถนำมาชำระหนี้ได้ เพราะเป็นเงื่อนไขการใช้เงินที่ไม่ถูกต้อง

 

สรุปยืนยันว่า 1. BEM กับกทพ. ตกลงกันแล้วว่าจะยุติข้อพิพาททั้งหมดทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต 2. ยุติด้วยการไม่ลงทุนใน Double Deck โดยการขยายสัมปทานออกไป 3 ฉบับ ไปสิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2578  ส่วนการไม่ลงทุน Double Deck ในวันนี้ไม่ได้ความว่าจะไม่ทำ แต่จะศึกษารูปแบบทั้งระบบ และศึกษาแนวเชื่อม จุดตัดโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะมีการนำเสนอครม.อีกครั้ง 3. BEM ยังขอมีสิทธิ์ต่อสัญญาให้ครบตามสัญญาเดิมตามข้อ 21 แต่จะต้องมาเจรจาเงื่อนไข ผลตอบแทนใหม่ ณ เวลานั้น 4. BEM ยินดี่ทีจะยกเว้นค่าผ่านทาง

 

ผมว่าสัญญานี้จะมีประโยชน์ทั้งคู่ คือเราสามารถทำงานโดยไม่มีภาระหนี้สินอีกต่อไป ส่วน BEM ก็มีทำหน้าที่ต่อได้ ไม่ต้องใช้ทรัพยากรในการบริหารโครงการที่ BEM บริหารอยู่ จะได้ไปบริหารโครงการในอนาคต