นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การซื้อศูนย์การผลิตรถยนต์จีเอ็ม ประเทศไทยของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส นั้น เป็นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ (Global Strategy) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก(Mega Trend) โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยียานยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายใน(ICE) ไปสู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (xEV) ตลอดจน นโยบายของทั้งสองบริษัทในการวางแผนการผลิตและการจำหน่ายยานยนต์ในสาขาทั่วโลก เช่น ยุโรป อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์รวมถึงประเทศไทย โดยกลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ ซึ่งต้องปรับตัวเพื่อรองรับ Disruptive Technology ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ดังจะเห็นได้จากกรณีของการปรับกิจการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของบริษัทรถยนต์หลายค่ายทั่วโลก เช่น เฟียต-ไครสเลอร์ และการที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ได้ซื้อโรงงานผลิตยานยนต์ในประเทศอินเดียก่อนหน้านี้ด้วย
นายสุริยะ กล่าวต่อไปว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ได้เข้ามาหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการลงทุนสร้างฐานการผลิตยานยนต์ในประเทศไทยมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ส เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนรายใหญ่ และเป็นผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) และรถปิกอัพรายใหญ่ที่สุดของจีน โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ส มีปริมาณการจำหน่ายในจีนเฉลี่ย 1 ล้านคันต่อปี
สำหรับการลงทุนในประเทศไทยนั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ส วางแผนการผลิตรถยนต์ SUV และรถปิกอัพ รวมถึงการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 100,000 คันต่อปี โดย 50 % จะเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก และคาดว่าจะเริ่มต้นการผลิตได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565
โดยสรุปแล้ว การลงทุนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ขนาดกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี (ในปัจจุบัน GM ผลิตประมาณ 50,000 คันต่อปี) จะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อภาคการผลิต (โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยและ Supply Chain ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ) การส่งออก และการจ้างแรงงานในภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ยังมีการลงทุนวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ และเยอรมัน ในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ประเภทลิเทียมไอออน และเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ซึ่งคาดว่า จะเป็นส่วนสนับสนุนสำคัญต่อนโยบายการสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของรัฐบาลอีกด้วย