คลัง สยบปมดราม่า ยันกู้เงินชดเชยขาดดุลปกติ

18 ก.พ. 2563 | 09:16 น.

คลัง ยัน ไม่ถังแตก กู้เงินออมสิน กรุงไทย 2 หมื่นล้าน ชดเชยขาดดุล ชี้เป็นการบริหารกระแสเงินสดปกติ ตามมติ ครม.

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ถังแตก กรณีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณผ่านการทำสัญญากู้ยืมเงิน 20,000 ล้านบาท เพราะการกู้เงินถือเป็นการดำเนินการของกระทรวงการคลังตามปกติทั่วไปเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสรายได้และกระแสรายจ่ายในช่วงระยะเวลาต่างๆ ภายใต้ต้นทุนและความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในรูปแบบต่างๆ อยู่แล้ว เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรออมทรัพย์ สัญญากู้ยืมเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วเงินคลัง โดยมีการวางแผนการกู้เงินและบริหารเงินคงคลังร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ 

สำหรับการกู้เงินผ่านการทำสัญญากู้ยืมเงินในครั้งนี้ 20,000 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่เหลื่อมปีงบประมาณ 2562 จำนวน 101,022 ล้านบาท จากกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณของปีงบประมาณ 2562 รวม 450,000 ล้านบาท โดยตัวเลขล่าสุด ณ สิ้นเดือนม.ค.63 คลังได้มีการกู้เงินเหลื่อมปีไปแล้ว 56,202 ล้านบาท แบ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาล 18,600 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ 17,602 ล้านบาท และสัญญากู้ยืมเงิน 20,000 ล้านบาท 

การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2563 โดยกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่ได้บรรจุไว้ เป็นวงเงินกู้ที่ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ดังนั้น การกู้เงินในรูปแบบต่าง ๆ ของกระทรวงการคลังถือเป็นการดำเนินการปกติทั่วไป ไม่ได้แสดงถึงฐานะการคลังที่ย่ำแย่แต่อย่างใด โดยฐานะการคลังของรัฐบาลยังเข้มแข็งเพียงพอต่อการรองรับมาตรการการคลังเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ สะท้อนได้จากเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนม.ค. 2563 มีทั้งสิ้น 316,370 ล้านบาท โดยที่ระดับเงินคงคลังในปัจจุบันเป็นระดับที่ได้มีการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด