เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบงานความมั่นคง วางมาตรการป้องกันความแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ส่วนการวางกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัย ทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) จะเป็นผู้จัดสรรกำลังจากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) ทั้งชายและหญิง อำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนที่เดินทางมาติดต่อราชการและมาให้กำลังใจพรรคอนาคตใหม่ โดยการข่าวขณะนี้ ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ความไม่สงบ ทั้งนี้ ฝากถึงกองเชียร์ของพรรคอนาคตใหม่ ขอให้ปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบกฎหมาย เคารพกฎกติกา อย่าทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง เพราะเมื่อกฎหมายเดินหน้าไปแล้วไม่สามารถหยุดได้
ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้น กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 วางกำลังตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 1 กองร้อย หรือประมาณ 150 นาย ส่วนบริเวณด้านในศาลรัฐธรรมนูญจะมีเจ้าหน้าที่ของศาลดูแล และกำหนดเขตอำนาจศาล พื้นที่สำหรับสื่อมวลชนและประชาชนที่จะมาให้กำลังใจพรรค เช่นเดียวกับครั้งก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเริ่มนำกำลังเข้ารักษาความปลอดภัย และตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันที่ 20 มีนาคม เป็นต้นไป จนถึงหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย และจะมีการตั้งด่านตรวจความเรียบร้อยตามแผนของตำรวจนครบาล 2
พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวอีกว่า พรรคอนาคตใหม่ถือเป็นพรรคที่เคารพกฎหมายพอสมควร และอยู่ในกรอบของกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่กังวลเรื่องการชุมนุม เพราะจากการสืบสวนพบว่าผู้ชุมนุมและกลุ่มให้กำลังใจของพรรคอนาคตใหม่ จะไม่เดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนุญ แต่จะมีการรวมตัวกันที่ที่ทำการของพรรคอนาคตใหม่เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว
ทางตำรวจจะส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สน.มักกะสัน และ บก.น.1 ซึ่งในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ จะเรียกประชุมร่วมตำรวจนครบาล 1 และ 2 เพื่อสรุปมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันดังกล่าวอีกครั้ง ในเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่หากประชาชนต้องการไปให้กำลังใจ ไม่มีป้ายเรียกร้อง หรือรถขยายเสียง ก็จะไม่เข้าข่ายการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุม ก็สามารถกระทำได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทางตำรวจทราบ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและการอนุญาตจากศาลและอยู่ในพื้นที่ที่ศาลกำหนด
ส่วนกลุ่มผู้ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ว่าจะกลุ่มใดก็ตาม ก็ขอให้อยู่ภายในกรอบของกฎหมาย ไม่ลงมาชุมนุมเรียกร้องลงพื้นที่ถนน หากมีปัญหาก็ให้ใช้วิธีการถกเถียงกันในสภา หรือร้องเรียนตามหน่วยงานที่รับเรื่องร้องเรียน