รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

18 ก.พ. 2563 | 05:10 น.

สภาเกษตรกรฯ ระดมสองทุกภาคส่วน รับมือการค้าเสรีสินค้านม-โคเนื้อ ตามข้อตกลง FTA พร้อมจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอรัฐบาล ผวากระทบเกษตรกร 1.4 ล้านครัวเรือน

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

วันที่ 18 ก.พ. 2563 นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา “โครงการรับฟังความคิดเห็นเตรียมความพร้อมเปิดเสรีสินค้าโคนม และโคเนื้อของไทย (FTA)” กล่าวว่า จากภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA)ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ ซึ่งไทย มีกำหนดต้องเปิดตลาดโดยลดภาษีเหลือ 0% ในสินค้าหางนมเวย์ เนย ไขมันเนย เนยแข็ง และโคเนื้อ ในวันที่ 1 มกราคม 2564 และในสินค้านมและครีม เครื่องดื่มประเภทนมปรุงแต่งและนมผงขาดมันเนย ในวันที่ 1 มกราคม 2568

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

จากการพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว จะพบว่า อุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเจนได้แก่ “อุตสาหกรรมโคนม-โคเนื้อ” ภาคการผลิตต้นน้ำของอุตสาหกรรมนมไทยจะได้รับผลกระทบจากการ  เปิดเสรีอย่างมาก  เนื่องจากอุตสาหกรรมโคนมของออสเตรเลียเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีจำนวนโคประมาณ  3 ล้านตัว ผลิตน้ำนมได้ 10,326 ล้านตัน  มีประสิทธิภาพในการผลิตสูง ในขณะที่ไทยมีโคนม จำนวน 441,487 ตัว ผลิตน้ำนมได้ 726,963 ตัน มีราคาน้ำนมดิบในประเทศสูงไม่สามารถแข่งขันกับราคาผลิตภัณฑ์นมที่นำเข้า จากต่างประเทศ

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

นายประพัฒน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในข้อตกลงออสเตรเลียได้ขอให้ไทยเพิ่มการนำเข้านมผงเพิ่มขึ้นอีก 20% (70,000-80,000 ตันต่อปี) ซึ่งจะส่งผลกับเกษตรกรทำให้ขายน้ำนมดิบยากขึ้น เพราะผู้ผลิตภายในประเทศจะหันไปใช้นมผงที่นำเข้าจากต่างประเทศมาใช้แทน น้ำนมดิบในประเทศพบกับภาวะล้นตลาดได้ ในภาวะตลาดโลกโดยทั่วไปราคาน้ำนมดิบ  12.50 บาท ขณะที่น้ำนมโคในประเทศราคาอยู่ 17-18 บาท/กิโลกรัม

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

ภายใต้สถานการในปัจจุบันของระบบอุตสาหกรรมนมไทย ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะนำเข้านมผงจากต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากนมผงมีข้อดีของผู้แปรรูปทั้งในด้านคุณภาพและสะดวกสบาย จึงอาจทำให้การเปิดการค้าเสรีอาจทำให้การนำเข้า “นม” เข้ามาแทนที่ การผลิตน้ำนมดิบในประเทศ 

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

“การเปิดเสรีการค้าโคเนื้อตามข้อตกลง FTA ไทย-ออสเตรเลียส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ ของไทยต้องปรับตัวอย่างมาก เนื่องจากคุณภาพยังสู้ต่างประเทศไม่ได้ ขณะที่ต้นทุนการผลิตยังสูง ภาคการผลิต โคเนื้อคาดว่าจะได้รับผลกระทบในด้าน การลดการผลิต เลิกการผลิต ดุลการค้าลดลง ราคาภายในประเทศลดลง มีการว่างงานเพิ่มขึ้นประการใดประการหนึ่ง หรือหลายประการเช่นกัน”

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

โดยสินค้าที่สำคัญที่ไทยนำเข้า คือ เนื้อโค กระบือ ไม่มีกระดูกแช่แข็ง เนื้อโค กระบือ ไม่มีกระดูกสดหรือแช่เย็น ซึ่งปัจจุบันไทยเก็บภาษี นำเข้าร้อยละ 50  หากลดภาษีเหลือ 0 จะทำให้สินค้าดังกล่าวราคาถูกลง นำเข้ามากขึ้นและจะมีเกษตรกรที่จะได้รับผลกระทบจำนวนประมาณ 1.4 ล้านครัวเรือน”ประธานสภาเกษตรกรฯ กล่าว  

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น เกษตรกรผู้เลี้ยงต้องปรับตัวโดยเฉพาะการพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้เนื้อโคที่มีคุณภาพสามารถแข่งขัน แนวทางการปรับตัวของอุตสาหกรรมนี้ให้อยู่รอดในภาวะที่ต้องแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆ จึงสำคัญที่สุดที่รัฐบาลจะต้องเร่งให้มีมาตรการในการช่วยเหลือที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ ต่อเกษตรกรในอีก 15-20 ปี ข้างหน้า 

รับมือ FTA ไทย “ออสซี่-กีวี” พ่นพิษ

อย่างไรก็ตามเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบกับการเปิดเสรีการค้านมและโคเนื้อ ได้แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาในกรณีดังกล่าว สภาเกษตรกรแห่งชาติ จึงได้จัดทำโครงการรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาผลกระทบที่มีต่อเกษตรกรต่อไป