แนะลงทุน DRอิงหุ้นเวียดนาม รับยุคจีดีพีไทยโตต่ำ

17 ก.พ. 2563 | 10:09 น.

บล.บัวหลวง ชี้ช่องเพิ่มผลตอบแทน “ยุคจีดีพีไทยเติบโตต่ำ” ผ่านการลงทุน DR อ้างอิงดัชนีหุ้นเวียดนามชั้นนำ 30 ตัว

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในยุคที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี)ของไทยเติบโตค่อนข้างจำกัด หลังสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 63 จากเดิม 2.7-3.7% เหลือ 1.5-2.5% เมื่อเทียบกับจีดีพีของเวียดนามที่ขยายตัวรวดเร็ว โดยทางการเวียดนามคาดว่า ปีนี้เศรษฐกิจจะโตที่ 6.3% ดังนั้นการกระจายการลงทุนไปในเวียดนาม ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยเฉพาะลงทุนใน “ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ”(Depositary Receipt)หรือ DR ที่มีหลักทรัพย์ที่รับฝากเป็นกองทุนรวม ETF ที่อ้างอิงกับดัชนี VN30 Index สะท้อนหุ้นชั้นนำ 30 บริษัทของตลาดหุ้นเวียดนาม และเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ของเวียดนาม ใช้สัญลักษณ์ว่า “E1VFVN3001” 


 

ปัจจุบัน DR“E1VFVN3001” ได้รับความสนใจลงทุนจากนักลงทุนอย่างมาก เห็นได้จากมูลค่าตลาด (Market Cap) ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากกว่า 600 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1,447 ล้านบาท (ตัวเลข ณ วันที่ 14 ก.พ. 63) โดยดัชนี VN30 ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนสูงถึง 11.8% ชนะตลาดหุ้นไทยที่ให้ผลตอบแทนเพียง 3.5% ขณะที่ค่าเงินบาทในปี 63 ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเฉลี่ย 3-4% จะส่งผลบวกต่อ DR “E1VFVN3001”ดังนั้นถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนระยะยาว เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต 
 

สำหรับปัจจัยบวกที่สนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามมีหลายประเด็นเช่น เศรษฐกิจเวียดนามมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6-7% เมื่อเทียบกับไทยที่มีแนวโน้มเติบโตต่ำ หนุนโดยภาคอุตสาหกรรม ,ภาคการผลิตที่เติบโตโดดเด่น รับอานิสงส์ค่าแรงระดับต่ำ 180 บาทต่อวัน และการบริโภคที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ยอดส่งออกของเวียดนามปี 63 อาจขยายตัวต่อเนื่องจากปี 62 ที่เติบโตมากถึง 8.4% แซงหน้าส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และในอนาคตเวียดนามมีแนวโน้มเป็นผู้นำส่งออกในตลาดยุโรป หลังรัฐสภาสหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับเวียดนาม นอกจากนั้นเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติหน้าใหม่มีโอกาสไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามเตรียมเสนอร่างกฎหมายพัฒนาตลาดทุน เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนต่างชาติ และรองรับการ Upgrade เป็น “ตลาดเกิดใหม่” (Secondary Emerging market) ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า และรัฐบาลเวียดนามเตรียมพัฒนาประเทศต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก รองรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ปี 64 คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 6.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่การเมืองเองก็มีเสถียรภาพด้วย