เอกชนฮ่องกง-สิงคโปร์ ผวาโควิด-19 สั่งพนักงานทำงานที่บ้าน

เอชเอสบีซี และเชลล์ เป็นบริษัทเอกชนข้ามชาติอีกกลุ่มหนึ่งในฮ่องกงและสิงคโปร์ ที่ตัดสินใจสั่งให้พนักงานทำงานที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการติดหรือแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19

สื่อต่างประเทศรายงานวานนี้ (15 ก.พ.) ว่า ธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ และ บริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ ของอังกฤษ ได้สั่งให้พนักงานที่อยู่ในฮ่องกงและสิงคโปร์ทำงานจากที่บ้านหลังจากที่มีพนักงานได้ติดต่อกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ซึ่งเพิ่มความวิตกว่า เชื้อโรคดังกล่าวจะแพร่ระบาดในวงกว้างมากขึ้นในฮ่องกงและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชีย

ธนาคารเอชเอสบีซีซึ่งมีพนักงาน 21,000 คนในฮ่องกง เปิดเผยว่า พนักงานรายหนึ่งของธนาคารได้ถูกรัฐบาลฮ่องกงสั่งกักกันและควบคุมโรคหลังจากที่เขาได้ติดต่อใกล้ชิดกับญาติที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากนั้น ธนาคารจึงได้ติดต่อกับบรรดาพนักงานที่อาจพบปะใกล้ชิดกับพนักงานคนที่ถูกกักกันโรคดังกล่าว และแนะนำให้พวกเขาเฝ้าสังเกตอาการด้วยตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน

ส่วนบริษัทเชลล์ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ ก็ได้สั่งพนักงานบางรายในแผนกซื้อขายที่ทำงานอยู่ในประเทศสิงคโปร์ให้กลับไปทำงานที่บ้าน หลังจากพนักงานคนหนึ่งของบริษัทได้ติดต่อกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ พนักงานแผนกซื้อขายของเชลล์บางส่วนทำงานจากที่บ้านอยู่แล้ว อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนรับกับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ขณะนี้ พนักงานทุกคนจำเป็นต้องทำงานจากบ้าน

 รายงานระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 รายแล้วจนถึงขณะนี้ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยฮ่องกงมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 53 ราย ส่วนในสิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 58 ราย