ป.ป.ช.เชือดขรก.มท.ปมเช่าคอมพ์ฉาว“ชวรัตน์-มานิต”รอด

14 ก.พ. 2563 | 11:01 น.

14 กุมภาพันธ์ 2563 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนกรณีกล่าวหานักการเมืองชื่อดังรายหนึ่ง พร้อมพวกที่เป็นอดีตข้าราชการระดับสูง และข้าราชการในกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในการจัดทำโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้งานเกี่ยวกับบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ วงเงิน 3,490 ล้านบาท ยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางวินัย เฉพาะข้าราชการที่เกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าวแล้ว โดยนักการเมืองระดับชาติชื่อดัง และอดีตข้าราชการระดับสูงที่ถูกกล่าวหาในกรณีนี้ มิได้ถูกชี้มูลความผิดแต่อย่างใด ว่า กรณีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้

 1.กรณีกล่าวหา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เมื่อครั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย นั้น ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองได้ดำเนินการการตรวจสอบความถูกต้องก่อนการลงนามเห็นชอบผลการประกวดราคาและลงนามอนุมัติแล้ว พยานหลักฐานจึงยังฟังไม่ได้ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหา

2. กรณีกล่าวหานายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้อำนวยการกองคลัง กรมการปกครอง และนายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครองนั้น เห็นว่านายธีรวัฒน์ได้เสนอบันทึกฯ ให้นายกองเอกวิลาศพิจารณาเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น นายกองเอกวิลาศได้ลงนามในบันทึกขออนุมัติเช่าระบบคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบตามโครงการฯ เพื่อเสนอปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทั้งที่ การทดสอบทางเทคนิคไม่เป็นตามเงื่อนไขตามขอบเขตของงาน (TOR) การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง จึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551

3. กรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประกวดราคา และคณะทำงานทางด้านเทคนิค เห็นว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานทางด้านเทคนิคซึ่งประกอบด้วย นายประวีณ แจ่มศักดิ์ นายทรงพล อารมณ์ชื่น นายสมเกียรติ อุดมเรณู นายธนาคม ฐานนันทน์ และนางสาวลัดดา พรพนมสิทธิกุล ได้ทดสอบทางด้านเทคนิคตามโครงการฯ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ขอบเขตของงาน (TOR) กำหนดไว้ จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 โดยเคร่งครัด แต่เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการประกวดราคา การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาถือเป็นเรื่องของการบกพร่อง ในหน้าที่

สำหรับการที่ นายพิภพ ดำทองสุข นายกมลโลจฒน์ เชียงวงศ์ นายทรงชัย ลิ้มไกลท่า และนายปรีดา บุญประคอง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประกวดราคา ได้มีมติให้คณะทำงานด้านเทคนิค ทดสอบทางด้านเทคนิค ตามโครงการไม่ตรงตามขอบเขตของงาน (TOR) ซึ่งเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจและไม่เป็นไปตามที่ขอบเขตของงาน (TOR) กำหนดไว้ จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 โดยเคร่งครัด จึงให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอน ดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจกับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประกวดราคา และคณะทำงานทางด้านเทคนิคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 64 ต่อไป

สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนว่า การพิจารณาตัดสินคดีใดๆ นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน มิได้มุ่งเน้นจ้องจับผิดนักการเมืองแต่อย่างใด สำหรับกรณีที่มีผู้ถูกกล่าวหาบางราย ขอความเป็นธรรมในระหว่างการพิจารณาก่อนวินิจฉัยเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นตามปกติของกระบวนการไต่สวน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็จะนำมาประกอบการพิจารณาทุกเรื่อง