นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน การหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนผู้ส่งออกสินค้าหน้ากากอนามัย โดยย้ำว่า การส่งออกหน้ากากอนามัยแบบปกติทั่วไป จะไม่อนุญาตให้ส่งออกทุกกรณี ซึ่งผู้ส่งออก มีข้อเสนอหากยื่นขออนุญาตไปจำนวน 5 แสนชิ้น จะขอส่งออกเพียงครึ่งนึงหรือ 2.5แสนชิ้น ส่วนที่เหลือจะจัดสรรไปยังศูนย์กระจายสินค้าของกรมการค้าภายใน เพื่อมากระจายในประเทศ รวมทั้งขอผ่อนผันการส่งออกหน้ากากอนามัยลักษณะเฉพาะ เช่น ใช้ทางการแพทย์ และการป้องกันสารเคมี ซึ่งไม่ได้ใช้ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามกรมการค้าภายใน จะพิจารณาทุกประเด็นที่ผู้ส่งออกเสนออีกครั้ง แต่เบื้องต้นได้กำหนดเงื่อนไขให้ จะต้องผลิตหน้ากากอนามัยแบบที่ใช้ในประเทศมาชดเชยในปริมาณเท่ากับที่ส่งออกไป เพื่อเพิ่มปริมาณสินค้าในประเทศ รวมทั้งการกำหนดให้ผู้ผลิต-ผู้ค้าและผู้ส่งออก ต้องแจ้งสต๊อกสินค้าภายในวันศุกร์(14ก.พ.)นี้นั้น หากรายได้ยังไม่ดำเนินการตามกำหนด จะเข้าไปตรวจสอบทันที
ส่วนการจัดสรรหน้ากากอนามัยจากผู้ผลิตมาที่ศูนย์กระจายสินค้าของกรมการค้าภายใน จะเพิ่มการจัดสรรให้โรงพยาบาลมากขึ้น จากเดิมที่จะมีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศบางส่วน เพราะหลายประเทศหยุดการส่งออกจึงทำให้หลายโรงพยาบาลขาดแคลนบ้าง แต่ในส่วนของโรงงานที่ผลิต ป้อนให้กับโรงพยาบาลโดยตรง ก็ยังดำเนินการเหมือนเดิม โดยกรมการค้าภายในไม่ได้เข้าไปบริหารจัดการ