นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากการติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจและปัจจัยที่เข้ามากระทบกับเศรษฐกิจไทยในหลายเรื่องทั้งงบประมาณที่ล่าช้า การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุดยังเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียที่กระทบจิตใจคนไทยที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาสที่1 ปี 2563 ออกมาไม่ดีนัก
โดยคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2562 จะขยายตัวได้ไม่ถึง 2% และในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 อาจขยายตัวไม่ถึง 1% เนื่องจากมีผลกระทบในเรื่องการท่องเที่ยวที่รายได้จะหายไปจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นในช่วงนี้รัฐบาลต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อประคองให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้
ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยรายไตรมาสจะขยายตัวมากกว่า 1% มาตลอด โดยช่วงที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่ถึง 1% ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งมีการก่อนที่จะมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเดือนพ.ค.2557 ซึ่งเศรษฐกิจปีนั้นขยายตัวได้ 0.7% โดยเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ปี 2557 หดตัว 0.5% ไตรมาส 2 ปี 2557 ขยายตัว 0.8% ไตรมาส 3 ปี2557 ขยายตัว 0.9% ซึ่งหากเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ปี 2563 ขยายตัวไม่ถึง 1% จะเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี
นายสมคิด กล่าวต่อว่า เตรียมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มีการเพิ่มวันหยุดยาวต่อเนื่องให้มีวันหยุดยาวมากขึ้น เช่น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคนจะมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยว หากมีการขยายวันหยุดเพิ่มขึ้นก็จะเป็นการช่วยให้เกิดการท่องเที่ยวได้มากขึ้น โดยได้ประสานนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปพิจารณาเติมวันหยุดชดเชยของช่วงครึ่งปีหลัง หรือปลายปีเอามาไว้ในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 แทน แล้วปลายปีก็ไม่ต้องมีวันหยุดชดเชยอีก เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงครึ่งปีแรก