ธุรกิจในหลายพื้นที่ของจีนเริ่มกลับเข้าทำงาน

13 ก.พ. 2563 | 07:21 น.

ธุรกิจสำคัญในพื้นที่ต่าง ๆ ของจีน ยกเว้น “มณฑลหูเป่ย” ที่ไวรัสโคโรนาระบาด ได้เริ่มกลับมาทำงานแล้ว โดยเฉพาะกรุงปักกิ่ง มีบริษัทข้ามชาติจำนวนมากเริ่มกลับมาดำเนินกิจการ ขณะที่บริษัทหลายแห่งใช้วิธีทำงานทั้งที่ห้องทำงานและจากทางไกล

 


พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ  ได้ประมวลข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ต่าง ๆ ในจีน ยกเว้นมณฑลหูเป่ย ที่ประสบปัญหาไวรัสโคโรนาระบาด ล่าสุดพบหลายธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการแล้ว ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้


1.เมื่อวันที่ 11 ก.พ.63 คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (National Development and Reform Commission : NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ของสภารัฐกิจของจีน ได้จัดงานแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่ง 


โดยนายฉง เลี่ยง สมาชิกกลุ่มพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเลขาธิการของ NDRC กล่าวว่า งานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนต้องกลับมาทำงานทันที รวมทั้งธุรกิจที่สำคัญก็ควรกลับมาทำงานตามกำหนดเวลาและเริ่มโดยเร็วที่สุด สำหรับพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค และงานที่ทำได้จากทางไกลให้ดูตามความเหมาะสม 
     

พื้นที่ต่าง ๆ ในจีนยกเว้นมณฑลหูเป่ย ได้เริ่มกลับเข้าทำงาน โดยเฉพาะธุรกิจสำคัญ เช่น เวชภัณฑ์ พลังงาน อาหาร การขนส่งและโลจิสติกส์ ฯลฯ ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.63 ที่ผ่านมา หลังสิ้นสุดวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่ขยายเวลา เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พื้นที่ต่าง ๆ ของจีนก็ได้เริ่มต้นกลับมาทำงานในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุตสาหกรรมของโลก อันเป็นการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ


 

 

 

                                                           ธุรกิจในหลายพื้นที่ของจีนเริ่มกลับเข้าทำงาน

2.ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในพื้นต่างๆ ของจีน 
         

2.1 มณฑลกวางตุ้งเป็นมณฑลที่ใหญ่ที่สุดในการผลิต มูลค่าเพิ่มทางอุตสาหกรรมมีขนาด 4 ล้านล้านหยวน บริษัทหลายแห่งครองส่วนแบ่งสำคัญของห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั่วโลก ตอนนี้บริษัทเหล่านี้เริ่มกลับมาทำงาน แต่ต้องเน้นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจาก 4 ด้าน คือ (1) กลไกการป้องกันและควบคุม (2) การตรวจพนักงาน (3) อุปกรณ์ และ (4) การจัดการภายใน
     

2.2 กรุงปักกิ่ง มีบริษัทข้ามชาติจำนวนมากก็เริ่มต้นการผลิตเช่น บริษัท ซาโนฟี่ (Sanofi) บริษัทพัฒนายาและนวัตกรรรมชั้นนำระดับโลก โรงงานที่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง มีสายบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ 4 สาย ตอนนี้ได้เปิดเดินเครื่อง 3 สายแล้ว บางสายมีผลผลิตสูงกว่าการผลิตในช่วงก่อนการระบาดของเชื้อไวรัส บริษัทอีกแห่งหนึ่งที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับเมอร์เซเดสเบนซ์ พนักงานส่วนใหญ่กลับมาทำงานแล้ว สามารถตอบสนองความต้องการการผลิตของรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว โดยผู้รับผิดชอบเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในกรุงปักกิ่งระบุว่า ผู้ประกอบการจำนวน 296 แห่งในเขต มีบริษัท 200 แห่ง เช่น เบนซ์ปักกิ่ง ก็ได้กลับมาทำงานตามกำหนดเวลา  
 

 

3. มาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการกลับเข้าสู่การทำงาน
     3.1 กลุ่มบริษัทการรถไฟแห่งประเทศจีน ประจำกรุงปักกิ่ง ได้ดำเนินการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายได้ครอบคลุมถึงผู้โดยสารที่เดินทางเข้าสู่กรุงปักกิ่งทั้งหมด เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสาร เช่น ในสถานีรถไฟต่างๆ ของกรุงปักกิ่ง ได้ตรวจพบผู้ที่มีอุณหภูมิผิดปกติจำนวน 67 คน จึงได้ส่งต่อไปยังหน่วยงานป้องกันโรคระบาดทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฯลฯ ในขณะนี้ในสถานีรถไฟต่างๆ ของกรุงปักกิ่ง ได้ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิ 370 ชุด รวมถึงเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิขณะเดินผ่านประตูจำนวน 12 เครื่อง และเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิอิฟราเรด 88 เครื่อง ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องหยุดรอ โดยเครื่องจะสามารถตรวจวัดโดยอัตโนมัติ


     3.2 ในด้านการบิน นอกจากเพิ่มการถ่ายเทอากาศและฆ่าเซื้อแล้ว สนามบินนานาชาติโส่วตูและต้าซิง ซึ่งทั้ง 2 แห่งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ยังได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกสนามบินทั้งหมด


     3.3 ในด้านการคมนาคมภายในเมือง สำหรับแท๊กซี รถทัวร์และรถบัส รวมถึงรถไฟฟ้าที่มีราง จะดำเนินการฆ่าเชื้ออย่างน้อยสองครั้งต่อวัน ตามหลักการที่ “ครอบคลุมทั้งหมดทุกคัน” โดยผู้รับผิดชอบของทางรถไฟใต้ดินกรุงปักกิ่งได้เน้นว่า รถไฟใต้ดินของกรุงปักกิ่งจะฆ่าเชื้อในทั้งสถานีและตู้โดยสารให้ทั่วถึงทุกวัน ระบบปรับอากาศในสถานีได้เปลี่ยนเป็นแบบนำอากาศเข้ามาจากภายนอก 100% และยังจะใช้มาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารในสถานีและภายในตู้รถโดยสาร ขณะที่ผู้โดยสารจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่โดยสาร สำหรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย จะเตือนและไม่ให้โดยสารรถไฟใต้ดิน 


บทสรุป หลังจากที่คณะรัฐมนตรีจีนได้ออกหนังสือเวียน เรียกร้องให้วิสาหกิจดำเนินการป้องกันและควบคุมตามหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อฟื้นฟูการผลิตอย่างมีขั้นตอน ซึ่งมีข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.พ.63 พบว่า วิสาหกิจผลิตหน้ากากอนามัยทั่วประเทศได้ฟื้นฟูการผลิตกว่า 76% และวิสาหกิจการผลิตชุดป้องกัน ได้ฟื้นฟูการผลิต 77% แล้ว 


สำหรับธุรกิจการผลิตและแปรรูปข้าว ได้ฟื้นฟูการผลิต 94.6% ในขณะที่อัตราการฟื้นฟูการผลิตของบริษัทขุดถ่านหินเกินกว่า 50% ส่วนไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันปิโตรเลียม ก็มีอุปทานที่เพียงพอ รวมทั้งการบินพลเรือน รถไฟและเครือข่ายการขนส่งทางน้ำได้ดำเนินการตามปกติ ในขณะที่มีบริษัทบางแห่งใช้วิธีการทำงานจากทางไกล ในเซินเจิ้น กว่างโจว (กวางเจา) และมหานครเซี่ยงไฮ้ 
นอกจากนี้ ในกรุงปักกิ่ง ก็มีบริษัทหลายแห่งใช้วิธีการทำงานทั้งที่ห้องทำงานและจากทางไกล ซึ่งบุคลากรในตำแหน่งสำคัญมาทำงานในห้องทำงานในช่วงเวลาที่ต่างกัน ส่วนพนักงานคนอื่นทำงานที่บ้าน เป็นต้น